|
|
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมมโนทัศน์และความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย นางจำเนียร ฉัตรรัตนวารี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนื้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมมโนทัศน์และความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อศึกษาผลการทดลอง ใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมมโนทัศน์และความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้าน 2.1) มโนทัศน์ทางฟิสิกส์ 2.2) ความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์ 2.3) เจตคติต่อวิชาฟิสิกส์ การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การวิเคราะห์ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ระยะที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน การดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1) การออกแบบรูปแบบการเรียนการสอน 2) การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน และแผนการจัดการเรียนรู้ ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน โดยการนำรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดมโนทัศน์ทางฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่ จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.92 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์ จำนวน 5 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89 3) แบบวัดเจตคติต่อวิชาฟิสิกส์ จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1) ค่าร้อยละ 2) ค่าเฉลี่ย 3) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ 4) สถิติทดสอบค่าที (t-test for Dependent Samples) ระยะที่ 4 การประเมิน การดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1) การประเมินระหว่างการใช้รูปแบบการเรียนการสอน 2) การประเมินหลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอนและการนำเสนอรูปแบบการเรียนการสอน
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 4 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) จุดมุ่งหมาย 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผล กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรียกว่า VAREE Model มีขั้นการเรียนรู้ 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ตรวจสอบสิ่งที่รู้ (Verify knowledge Step : V) ขั้นที่ 2 ชวนดูสิ่งใหม่ ๆ (Attract Step : A) ขั้นที่ 3 ทำอย่างไรให้กระจ่าง (Realize Step : R) ขั้นที่ 4 ชี้ทางนำไปใช้ (Exercise Step : E) ขั้นที่ 5 ใส่ใจประเมินผล (Evaluation Step : E)
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น พบว่า
2.1 นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความเข้าใจในมโนทัศน์ทางฟิสิกส์หลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2 นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์หลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.3 นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีเจตคติต่อวิชาฟิสิกส์อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄=4.61 , S.D=0.53)
|
โพสต์โดย จำเนียร ฉัตรรัตนวารี : [25 ส.ค. 2562 เวลา 14:00 น.] อ่าน [4903] ไอพี : 223.205.232.88
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 16,214 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,224 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,484 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,262 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,709 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,112 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,477 ครั้ง
| เปิดอ่าน 55,502 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,346 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,853 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,174 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,531 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,692 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,544 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,163 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 108,584 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,441 ครั้ง
| เปิดอ่าน 76,614 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,283 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,577 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|