ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเร

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของ

วัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบ

ร่วมมือ (STAD ) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

หน่วยงาน โรงเรียนสีคิ้ว “สวัสดิ์ผดุงวิทยา” สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

ผู้วิจัย นางศิริมิตร ศิลาน้ำเงิน

ปีที่ทำวิจัย 2561

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) ส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่ม วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/12 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสีคิ้ว “สวัสดิ์ผดุงวิทยา” สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียน จากทั้งหมด 12 ห้องเรียน ซึ่งนักเรียน

แต่ละห้อง มีผลการเรียนไม่แตกต่างกันเนื่องจากโรงเรียนได้จัดห้องเรียนแบบคละความสามารถและ

ผลการเรียน ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 32 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 2 ชนิด ได้แก่

1. เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ

1.1 การจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 12 แผน

2. เครื่องมือใช้ในการสะท้อนผล

2.1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ

2.2 แบบประเมินการทำงานกลุ่ม วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

2.3 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสีคิ้ว “สวัสดิ์ผดุงวิทยา” สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ

ผลการวิจัยพบว่า

1. การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น

เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 84.93/85.00 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

2. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

ของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนความก้าวหน้าอยู่ในระดับดีมาก

3. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

ของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ยการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา 3 เรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.58)

สรุปผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า การจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา 3 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่มและผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ (STAD) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ดีอย่างหนึ่ง ที่สามารถพัฒนาต่อไปโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและให้ให้ประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียนและครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาหรือกลุ่มสาระอื่นๆในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ต่อไป

โพสต์โดย แนน : [24 ส.ค. 2562 เวลา 13:46 น.]
อ่าน [4785] ไอพี : 101.51.205.249
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,954 ครั้ง
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้

เปิดอ่าน 39,149 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 7 ผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที่ 3
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 7 ผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที่ 3

เปิดอ่าน 79,687 ครั้ง
Parts of Speech    Sentence   Phrase   Clause
Parts of Speech Sentence Phrase Clause

เปิดอ่าน 20,717 ครั้ง
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม

เปิดอ่าน 9,356 ครั้ง
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่

เปิดอ่าน 10,404 ครั้ง
มีอะไรซ่อนอยู่ในการนอนของเด็ก
มีอะไรซ่อนอยู่ในการนอนของเด็ก

เปิดอ่าน 22,491 ครั้ง
การใช้ใบเสร็จรับเงินจากช่องทางการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานในการประกอบการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ว 34)
การใช้ใบเสร็จรับเงินจากช่องทางการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานในการประกอบการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ว 34)

เปิดอ่าน 13,445 ครั้ง
หลากเทคนิค ช่วยให้นอนหลับสบาย
หลากเทคนิค ช่วยให้นอนหลับสบาย

เปิดอ่าน 31,644 ครั้ง
เคล็ดลับ"ล้างเห็ด" ให้สะอาดทันใจ
เคล็ดลับ"ล้างเห็ด" ให้สะอาดทันใจ

เปิดอ่าน 15,325 ครั้ง
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน

เปิดอ่าน 114,558 ครั้ง
วิธีการปลูกพืชผัก
วิธีการปลูกพืชผัก

เปิดอ่าน 21,683 ครั้ง
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค

เปิดอ่าน 1,848 ครั้ง
Blog คืออะไร
Blog คืออะไร

เปิดอ่าน 20,516 ครั้ง
ผมสวยด้วยผักสวนครัว
ผมสวยด้วยผักสวนครัว

เปิดอ่าน 17,720 ครั้ง
ฮือฮา! คลิปโพสต์ทั่วเฟซบุ๊ก "พระ" สวดมนต์จังหวะเพลงแร็พ-ร็อก งานขึ้นบ้านใหม่!
ฮือฮา! คลิปโพสต์ทั่วเฟซบุ๊ก "พระ" สวดมนต์จังหวะเพลงแร็พ-ร็อก งานขึ้นบ้านใหม่!

เปิดอ่าน 17,275 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
เปิดอ่าน 13,772 ครั้ง
เหรียญราชนิยม
เหรียญราชนิยม
เปิดอ่าน 11,982 ครั้ง
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน
เปิดอ่าน 11,100 ครั้ง
A Systems Approach for Developing Technological Literacy
A Systems Approach for Developing Technological Literacy
เปิดอ่าน 24,773 ครั้ง
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ