ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
หลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education)

ชื่อเรื่อง หลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education)

รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C)

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย นางวันทนา บุตรศรี

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ ตำบลสิ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ กระทรวงมหาดไทย

ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 2) เพื่อหาประสิทธิภาพของหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยพิจารณาจาก 4 ประเด็น ดังนี้ 2.1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้หลักสูตรฯ 2.2) เพื่อศึกษาทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) 2.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้หลักสูตรฯ 2.4) เพื่อศึกษาผลการประเมินหลักสูตรโดยครูผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน กล่าวคือ 1) การศึกษาบริบทและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 2) การออกแบบและสร้างหลักสูตร 3) การทดลองใช้และหาประสิทธิภาพหลักสูตร และ 4) การประเมินผลและปรับปรุงหลักสูตร การเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และแปลความหมายของข้อมูล โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods) กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ของโรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ จำนวน 31 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selected) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ Nonparametric แบบ Wilcoxon Matched-Pairs Signed-Ranks Test และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. ผลการประเมินหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่ามีองค์ประกอบของหลักสูตรมีความสอดคล้องกันทุกองค์ประกอบ และมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการประเมินหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากการทดลองใช้หลักสูตร พบว่า

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2.2 ผลการประเมินทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C) ของนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ประกอบด้วยทักษะในสาระวิชาหลัก (Core Subjects–3Rs) อยู่ในระดับมากที่สุด และทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills – 8Cs) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2.3 นักเรียนมีความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2.4 ผลการประเมินหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาช่างแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย cheva : [23 ส.ค. 2562 เวลา 08:23 น.]
อ่าน [3529] ไอพี : 101.51.138.119
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 44,964 ครั้ง
ทานโจ๊กตอนเช้ามีประโยชน์อย่างไร
ทานโจ๊กตอนเช้ามีประโยชน์อย่างไร

เปิดอ่าน 20,109 ครั้ง
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้

เปิดอ่าน 1,394 ครั้ง
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023

เปิดอ่าน 16,687 ครั้ง
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?

เปิดอ่าน 13,714 ครั้ง
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน

เปิดอ่าน 13,549 ครั้ง
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้

เปิดอ่าน 12,246 ครั้ง
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ

เปิดอ่าน 26,439 ครั้ง
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ

เปิดอ่าน 8,675 ครั้ง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง

เปิดอ่าน 26,418 ครั้ง
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT

เปิดอ่าน 11,104 ครั้ง
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค

เปิดอ่าน 25,993 ครั้ง
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู

เปิดอ่าน 13,735 ครั้ง
ดีท็อกซ์ร่างกาย ล้างพิษสมอง ชำระขยะใจ รับ "สุขมหาศาล" ทั้งปี 2556
ดีท็อกซ์ร่างกาย ล้างพิษสมอง ชำระขยะใจ รับ "สุขมหาศาล" ทั้งปี 2556

เปิดอ่าน 461,525 ครั้ง
สมรรถนะของครู
สมรรถนะของครู

เปิดอ่าน 10,907 ครั้ง
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 17,816 ครั้ง
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
เปิดอ่าน 2,034 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 137,747 ครั้ง
ศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรี
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
เปิดอ่าน 26,621 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
เปิดอ่าน 9,541 ครั้ง
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ