ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนและการศึกษาผลการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครู

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนและการศึกษาผลการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยาผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้บูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

ผู้วิจัย นายสมยศ นุชใหม่

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2560-2561

บทคัดย่อ

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนและการศึกษาผลการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยา ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้บูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน๓) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครูและ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจการเรียนรู้ของครูและนักเรียน ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสายธารวิทยา จำนวน 557 คน ครูผู้ร่วมวิจัย 13 คน ได้มาโดยวิธีเจาะจง 8 คน โดยวิธีสมัครใจ 5 คน เครื่องมือการวิจัยมี 2 ชนิด ได้แก่ 1)เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ และแบบประเมินแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2)เครื่องมือการวิจัยเพื่อศึกษาผลการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยาได้แก่ คู่มือการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยา แบบบันทึกการประชุมสนทนากลุ่ม แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง แบบสังเกตแบบมีส่วนรวม แบบบันทึกการประชุม แบบบันทึกการนิเทศ แบบประเมินเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน แบบประเมินผลงานการวิจัยในชั้นเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ ตัวแปรที่ศึกษา คือ ตัวแปรต้นและตัวแปรตาม 1) ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดการเรียนรู้บูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) 2) ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนและสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยา ผ่านการจัดการเรียนรู้บูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS การศึกษาค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากPLC ของครู (Content Analysis) การดำเนินการวิจัย ขั้นที่ 1) ขั้นเตรียมการ ดำเนินงานตามระบบ PDCA ดังนี้ Pคือ กำหนดกรอบภาระงานของตน/แผนดำเนินการ/บริบท/ปัจจัยนำเข้าด้านบุคคล วัสดุ อุปกรณ์ งบประมาณ และการบริหารจัดการ/จุดแข็ง จุดอ่อน วิกฤต และโอกาส D คือ การดำเนินการศึกษาข้อมูลตามแผน และภาระงานของตน ได้กรอบแนวคิดการวิจัย เครื่องมือการวิจัย C คือ การตรวจสอบการดำเนินงาน พบข้อผิดพลาดด้านจัดพิมพ์ ประเด็นการนำเสนอที่ไม่สมบูรณ์ เช่น จุดอ่อนและจุดแข็งที่ยังไม่ลงสู่คุณภาพผู้เรียน และเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพผู้เรียนที่ยังไม่ผ่านการหาคุณภาพ A คือ การร่วมกันปรับการพิมพ์และเพิ่มเติมรายละเอียดด้านคุณภาพผู้เรียนที่นำสู่การแก้ปัญหา พร้อมกับออกแบบการประเมินคุณภาพเครื่องมือวิจัย ขั้นที่ 2) ขั้นดำเนินการ ดำเนินงานตามระบบ PAOR ดังนี้ วงจรที่ 1) เดือนมิถุนายน P คือ การศึกษาเหตุการณ์ปัจจุบันใกล้ตัวที่น่าสนใจ ความต้องการของนักเรียน วางแผนการจัดการเรียนรู้ตามเหตุการณ์จริงและความสนใจของผู้เรียน A คือดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามแผนโดยบูรณาการ PLCO คือประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพฤติกรรมการเรียนรู้ประจำชั่วโมง/หน่วย/แผนซึ่งพบว่านักเรียนทุกคนมีคะแนนเก็บผ่านตามตัวชี้วัดที่กำหนด และพฤติกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับปานกลาง โดยประเด็นการเสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอยู่ในระดับต่ำ และ R คือ การสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ การพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม การปรับปรุงแก้ไข ซึ่งพบว่า การจัดการเรียนรู้บูรณาการ PLC ยังยึดครูเป็นศูนย์กลาง นักเรียนไม่มีเครื่องมือในสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม สร้างผลงานได้ไม่ครบประเด็น วงจรที่ 2) เดือนกรกฎาคม P คือวางแผนการให้ความรู้เพิ่มเติมด้าน PLC กับครูสู่ผู้เรียนและแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่มสาระในรูปแบบต่างๆ เช่น คู่ซี้หรือICT ช่วยครูพร้อมกับจัดหามุมสืบค้นหรือเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาเพิ่มเติม A คือ เพื่อนให้คำปรึกษาเพื่อน หรือเปิด Youtubeตัวอย่างการสอนวิชาต่างๆ ผ่านกระบวนการ PLC แล้วปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ตามแผนโดยแทรกวิธีการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมและกระตุ้นการพูดโดยใช้คำถามเปิดกว้าง ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ O คือครูจำนวนหนึ่งให้ความสนใจตัวอย่างการสอนที่นำเสนอผ่าน Youtube ขณะที่บางคนนั่งหลับ และให้เหตุผลแย้งถึงความเป็นไปได้ยากในการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ ซึ่งแบบเดิมดีและง่ายกว่า ส่วนผู้เรียนยิ้มแย้ม พูดนำเสนอ ตอบคำถามมากขึ้น บางคนนั่งเหม่อลอย ผลงานยังไม่สมบูรณ์และน่าสนใจเท่าที่ควร R คือครูบางท่านให้เหตุผลแย้งถึงความเป็นไปได้ยากในการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ ซึ่งแบบเดิมดีและง่ายกว่า ส่วนผู้เรียนขาดทักษะในการสืบค้นข้อมูลและการทำงานเป็นกลุ่ม วงจรที่ 3) เดือนสิงหาคม P คือปรับทัศนคติของครูด้วยกิจกรรมกลุ่มหรือจับคู่คิด เพิ่มเติมทักษะและแนวทางการสืบค้นข้อมูลผ่านสื่อICT ของผู้เรียนและครูศึกษากิจกรรมเตรียมความพร้อมก่อนเรียน เช่น เพลงและเกม เป็นต้น A คือใช้กิจกรรมหรือเกมเตรียมความพร้อมก่อนเรียน จัดการเรียนรู้ตามแผนเพิ่มเติมคำศัพท์สำคัญในการสืบค้นและ website ทางการศึกษาที่น่าสนใจ O คือมีเสียงหัวเราะในห้องเรียน ครูมีความแม่นยำในเนื้อหาแต่ยังไม่ชำนาญในการจัดการเรียนรู้ตามกระบวนการ PLC ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนประจำหน่วยและผลสัมฤทธิ์กลางของผู้เรียนภาคผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ พฤติกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับดีมากเกือบทุกรายการประเมิน ยกเว้นการเสนอความคิดเห็นและเสนอความช่วยเหลือ R คือครูไม่รอฟังคำตอบของนักเรียน โดยถามเองและตอบเองบ่อย บางประเด็นครูตอบเองไม่ให้โอกาสนักเรียนได้มีส่วนร่วมตอบ การวัดและประเมินผลผลสัมฤทธิ์หลากหลายแต่ไม่มีเกณฑ์ในการให้คะแนนที่เหมาะสม นักเรียนบางคนไม่ค่อยพูดแต่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมดี การขาดเรียนของนักเรียนลดลง สิ่งที่ได้เรียนรู้และบทเรียนจากการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) การเปลี่ยนบรรยากาศการประชุมตามวาระที่มีประธานกำหนดการประชุม เป็นบรรยากาศสบาย ๆ รู้สึกสะดวกสบายและเป็นกันเอง พบปะพูดคุยได้ง่าย นั่งล้อมวงคุยแบบเป็นกันเองจนเกิดชิ้นงาน 2) การดำเนินการในรูปแบบPLC นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพทั้งด้านวิชาชีพและผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน 3) ความรับผิดชอบในทางวิชาชีพของครูที่สอดคล้องกับความเป็นจริงในยุคศตวรรษที่ 2 อาจเกิดขึ้นได้ยากสำหรับกรณีครูที่มีการหลับใหลในกรอบแนวคิดเดิม ๆ ยังยึดตัวเองเป็นหลักจึงจำเป็นต้องมีการช่วยเหลือให้ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ครูเพื่อศิษย์ตามบริบทธรรมชาติการอยู่ร่วมกันที่มีความแตกต่างกัน 4) การทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่เปลี่ยนจากการบริหารจัดการเป็นผู้เอื้อให้ครูตื่นตัวเรียนรู้ทำหน้าที่วิชาชีพครูได้อย่างเต็มที่เห็นความสำคัญของตนเองและเด็ก สิ่งที่จะต้องปรับปรุงและพัฒนา ได้แก่ 1) ครูควรสร้างเครื่องมือการประเมินผลสัมฤทธิ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น สร้างเครื่องมือหรือเกณฑ์การประเมินผลงานหรือทักษะการปฏิบัติงานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น 2) ครูควรเจาะประเด็นที่มีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโดยรวมมากกว่าเป็นรายบุคคล 3) ครูควรสร้างวัฒนธรรมการร่วมมือกันทำงานและระบบที่ส่งเสริมประสิทธิผลและความเท่าเทียมกัน สร้างความสัมพันธ์ด้วยการทำงานในรูปกระบวนการกลุ่ม 4) ผู้บริหารควรให้ความเป็นอิสระในการทำงานของครูมากกว่ามุ่งเน้นด้านการพัฒนาหลักสูตรหรือมีการประเมินด้วยเกณฑ์เดียวกัน และ 5) เน้นการสื่อสารและเรียนรู้ร่วมกันผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างเครือข่ายในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น

ผลการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยาพบว่า การดำเนินการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยา วงรอบที่ 1 โดยกลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการและการนิเทศภายใน ซึ่งประกอบด้วย 4 กิจกรรม คือ กิจกรรมการนิเทศ การเขียนโครงการวิจัยในชั้นเรียน กิจกรรมการนิเทศการปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน กิจกรรมการนิเทศการเรียนรายงานการวิจัย กิจกรรมการประเมิน ผลงานวิจัยในชั้นเรียนสามารถทำให้กลุ่มผู้ร่วมวิจัยทั้ง 13 คน เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญของการวิจัยในชั้นเรียน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนตามเนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย 5 ขั้นตอนสูงขึ้น มีคะแนนจากการทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การวิจัยในชั้นเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 26.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.67 จากคะแนนเต็ม สามารถกำหนดชื่อเรื่องได้คนละ 1 เรื่อง มีความสามารถเขียนเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวมอยู่ในระดับดี มีความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนได้และมีผลงานการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวมอยู่ในระดับดี จำนวน 9 คน ระดับปานกลาง จำนวน 4 คน ซึ่งต้องดำเนินการพัฒนาให้มีคุณภาพบรรลุเป้าหมายทุกคน สำหรับการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยา โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อนอย่างต่อเนื่อง เน้นการนิเทศเป็นรายบุคคลประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่กิจกรรมการนิเทศ การปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน และกิจกรรมการประเมินผลงานวิจัยในชั้นเรียน พบว่ากลุ่มผู้ร่วมวิจัยทุกคนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนตามเนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย 5 ขั้นตอนสูงขึ้น สามารถสร้างผลงานการวิจัยในชั้นเรียนได้อย่างมีคุณภาพโดยมีผลการประเมินโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโรงเรียนสายธารวิทยาทั้ง 2วงรอบ สามารถพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียนตามเนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย 5 ขั้นตอนได้อย่างมีคุณภาพบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ทั้งนี้บุคลากรยังมีความภาคภูมิใจและเกิดความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงที่จะนำกระบวนการวิจัยไปพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพสูงขึ้นต่อไปครูโรงเรียนสายธารวิทยา มีความพึงพอใจต่อกระบวนการในการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของครูโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด( x- = 4.70, S.D. = 0.52)

โพสต์โดย เหน่ง : [23 ส.ค. 2562 เวลา 08:02 น.]
อ่าน [3424] ไอพี : 183.89.86.202
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,559 ครั้ง
ฮือฮาอ้าง"กูเกิ้ลเอิร์ธ"จับภาพ "เนสซี่"ทะเลสาปล็อคเนสได้ ใช้โปรแกรมภาพถ่ายดาวเทียม 3มิติ
ฮือฮาอ้าง"กูเกิ้ลเอิร์ธ"จับภาพ "เนสซี่"ทะเลสาปล็อคเนสได้ ใช้โปรแกรมภาพถ่ายดาวเทียม 3มิติ

เปิดอ่าน 8,357 ครั้ง
อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน
อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน

เปิดอ่าน 295,225 ครั้ง
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)

เปิดอ่าน 11,680 ครั้ง
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด

เปิดอ่าน 10,833 ครั้ง
แก้ปวดหัวด้วยน้ำ
แก้ปวดหัวด้วยน้ำ

เปิดอ่าน 35,746 ครั้ง
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน

เปิดอ่าน 15,192 ครั้ง
พลาสติกห่อหุ้มอาหาร ภัยร้ายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง!
พลาสติกห่อหุ้มอาหาร ภัยร้ายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง!

เปิดอ่าน 17,340 ครั้ง
การออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์
การออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์

เปิดอ่าน 14,894 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 46 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 46 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 24,366 ครั้ง
หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary storage Unit)
หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary storage Unit)

เปิดอ่าน 15,443 ครั้ง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง

เปิดอ่าน 9,198 ครั้ง
Robovi-nano สุดยอดหุ่นยนต์จิ๋ว!!!
Robovi-nano สุดยอดหุ่นยนต์จิ๋ว!!!

เปิดอ่าน 24,157 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

เปิดอ่าน 19,316 ครั้ง
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"

เปิดอ่าน 53,146 ครั้ง
ความหมายของเทคโนโลยี
ความหมายของเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 14,093 ครั้ง
เสาวรสบำรุงสายตาและแก้อาการนอนไม่หลับ
เสาวรสบำรุงสายตาและแก้อาการนอนไม่หลับ
เปิดอ่าน 22,320 ครั้ง
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ
เปิดอ่าน 10,648 ครั้ง
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เปิดอ่าน 15,544 ครั้ง
ต้นกำเนิด "ร่ม"
ต้นกำเนิด "ร่ม"
เปิดอ่าน 29,133 ครั้ง
"เห็ดเผาะ" คืออะไร คุณรู้จักไหม?
"เห็ดเผาะ" คืออะไร คุณรู้จักไหม?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ