ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนานักเรียนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณี ตามวิถีท้องถิ่น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างสื่อประสม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณีตามวิถีชัยภูมิ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อประสมและศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ที่มีต่อจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อประสมกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 (อนุบาล เด็กน่ารัก) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย สื่อประสมกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณี ตามวิถีชัยภูมิ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด ได้แก่ 1) บทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 6 เล่ม (งานฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล , สงกรานต์ , บวงสรวงเจ้าพ่อพระยาแล , ประเพณีบุญบั้งไฟ , แห่เทียนเข้าพรรษา และ บุญกระธูป) และ 2) หนังสืออ่านเพิ่มเติม จำนวน 6 เรื่อง (งานกาชาดร่วมใจ กราบไหว้เจ้าพ่อพระยาแล , สงกรานต์บ้านเรา , บวงสรวงเจ้าพ่อ ขอขมาพระยาแล , ประเพณีบุญบั้งไฟ พร้อมใจขอฝน , แห่เทียนเข้าพรรษาไหว้พระทำบุญ และ หนองบังแดงสืบสานตำนานบุญกระธูป) , แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน ใช้สอน 18 ชั่วโมง , แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากระหว่าง 0.40 – 0.75 , ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ระหว่าง 0.40 – 0.80 และมีค่าความเชื่อมั่น .87 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อประสม แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (Item total correlation) อยู่ระหว่าง 0.415 - 0.725 และมีค่าความเชื่อมั่น .85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล และสถิติทดสอบ t-test แบบสองกลุ่ม สัมพันธ์กัน (Paired – Samples T-Test)

ผลการศึกพบว่า

สื่อประสม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณี ตามวิถีชัยภูมิ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 82.74/81.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณี ตามวิถีชัยภูมิ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังการใช้สื่อประสมสูงกว่าก่อนใช้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อประสม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณี ตามวิถีชัยภูมิ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าดัชนีประสิทธิผล ในการเรียนรู้เท่ากับ 0.6314 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 63.14

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้สื่อประสม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณี ตามวิถีชัยภูมิ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52 , S.D. =0.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความพึงพอใจเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ สื่อประสม ทำให้รักการเรียนรู้มากขึ้น รองลงมาคือ ฉันชอบเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมโดยใช้สื่อประสม และ สื่อประสม ทำให้เกิดความสนุกสนานในเรื่องที่เรียน ตามลำดับ

โพสต์โดย ืnid : [21 ส.ค. 2562 เวลา 10:05 น.]
อ่าน [3884] ไอพี : 1.179.196.34
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,514 ครั้ง
วิธีสำหรับทำให้ผิวขาวใส แบบไร้สารเคมี
วิธีสำหรับทำให้ผิวขาวใส แบบไร้สารเคมี

เปิดอ่าน 59,906 ครั้ง
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก

เปิดอ่าน 68,128 ครั้ง
ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ
ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ

เปิดอ่าน 8,583 ครั้ง
เมื่อบ้านมีระเบียบ ฮวงจุ้ยก็ดีได้
เมื่อบ้านมีระเบียบ ฮวงจุ้ยก็ดีได้

เปิดอ่าน 17,959 ครั้ง
คลิปข่าวทุจริตสอบครู จากรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 10 มี.ค.2556
คลิปข่าวทุจริตสอบครู จากรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 10 มี.ค.2556

เปิดอ่าน 16,654 ครั้ง
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ

เปิดอ่าน 19,812 ครั้ง
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

เปิดอ่าน 15,004 ครั้ง
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย

เปิดอ่าน 41,422 ครั้ง
ปีอธิกสุรทิน
ปีอธิกสุรทิน

เปิดอ่าน 69,047 ครั้ง
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต

เปิดอ่าน 12,825 ครั้ง
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 9,536 ครั้ง
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน

เปิดอ่าน 7,786 ครั้ง
ลองอ่าน"เมื่อเฟซบุ๊คเฉลยปริศนา เพราะอะไรเราจึงไม่มีปุ่มคลิก"dislike"(ไม่ชอบ) ให้พวกคุ
ลองอ่าน"เมื่อเฟซบุ๊คเฉลยปริศนา เพราะอะไรเราจึงไม่มีปุ่มคลิก"dislike"(ไม่ชอบ) ให้พวกคุ

เปิดอ่าน 18,863 ครั้ง
กินอาหารต้านแก่แบบไทยๆ
กินอาหารต้านแก่แบบไทยๆ

เปิดอ่าน 13,199 ครั้ง
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้

เปิดอ่าน 11,020 ครั้ง
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
เปิดอ่าน 97,346 ครั้ง
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
เปิดอ่าน 9,557 ครั้ง
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
เปิดอ่าน 18,559 ครั้ง
โคขุน..."ไทยแบล็ค" ลูกผสมพันธุ์ใหม่ให้เนื้อมาก
โคขุน..."ไทยแบล็ค" ลูกผสมพันธุ์ใหม่ให้เนื้อมาก
เปิดอ่าน 10,225 ครั้ง
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ