ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอน
ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นางปุณิกา ข่ายม่าน
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สำนักการศึกษาเทศบาลนครตรัง
ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 ข้อ ใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากการเรียนโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แผนการจัดการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อ การเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 20 ข้อ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 28 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) (ห้องเรียน) เก็บข้อมูลโดยการทดลองแบบ One Group Pretest Posttest Design ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที (t-test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.96/85.54 สอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ .76106 แสดงว่าช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 76.11 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ร้อยละ 60.00 สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้
4. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนสาระประวัติศาสตร์โดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ที่เน้นการสอนตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้น กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้