การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้
แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โดย
นางดวงจิต เกียรติพัฒนกุล
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล ๓ ชุมชนวัดจันทราวาส
สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและประเมินความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 34 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 3 ชุมชนวัดจันทราวาส อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยจัดห้องเรียนของโรงเรียนคละความสามารถของผู้เรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามเพื่อศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) วิเคราะห์เปรียบเทียบ โดยการทดสอบค่า ที (t-test dependent) สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการวิจัย
1. ครู และนักเรียนมีความเห็นว่าจำเป็นและต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด การตรวจสอบความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้และความสอดคล้องของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีค่าดัชนีความสอดคล้องสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ( IOC  0.50 )
3. ทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก คือ 1) ทฤษฎี หลักการหรือแนวคิดพื้นฐานของการเรียนการสอน 2)วัตถุประสงค์ 3) กิจกรรมการเรียนรู้ 4) แหล่งการเรียนรู้ 5) การประเมินการเรียนการสอน โดยในองค์ประกอบที่ 3 กิจกรรมการเรียนรู้ใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จำนวน 10 แผน เวลา 25 ชั่วโมง มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ ขั้นกระตุ้นการเรียนรู้ด้วยปัญหา ขั้นนำสู่จุดมุ่งหมาย ขั้นวางแผนค้นคว้าเพื่ออธิบาย ขั้นสู่เป้าหมายด้วยวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล ขั้นเพิ่มพูนด้วยสรุปผล และขั้นรวมผลนำเสนอและขยายความรู้
4. ความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์นักเรียนจำนวนร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด มีความสามารถในการแก้ปัญหา ร้อยละ 70 ขึ้นไป พบว่าจำนวนนักเรียนทั้งหมด 34 คน ผ่านเกณฑ์ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 มีคะแนนความสามารถในการแก้ปัญหาเฉลี่ยเท่ากับ 18.06 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90.29 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
5. ระดับความคิดเห็นของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชานาฏศิลป์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับโครงงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมทั้งด้านรูปแบบของกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านเนื้อหา และด้านความพึงพอใจ มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับความเหมาะสมมาก