วิจัย : รูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับ
ทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย : นางสุชานันท์ วัฒนเวช ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
ปีวิจัย : 2560 2561
บทคัดย่อ
สำหรับการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับ การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 3) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนการสอน โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติงานประดิษฐ์ บายศรีปากชาม เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้ 3.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนจากการเรียนการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติงานประดิษฐ์ บายศรีปากชาม เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนจากการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3.3) ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของครูและนักเรียน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูผู้สอนประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนเทศบาลชนะชัยศรี เทศบาลเมืองอรัญญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ปีการศึกษา 2560-2561 จำนวน 75 คน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างสำหรับสัมภาษณ์ แบบสอบถามความคิดเห็น คู่มือครูประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ ที่ได้นานการตรวจสอบ หาคุณภาพความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) จากผู้เชี่ยวซาญและผ่านการตรวจสอบความยาก (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่น (KR - 20) ทั้งฉบับ และค่าความเชื่อมั่น มีสถิติใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ สถิติพื้นฐาน คือ ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติที่ทดสอบสมมติฐาน คือ ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) และค่าประสิทธิผล (E.I.) ค่า t - test ผลการวิจัยพบว่า
1. การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โดยภาพรวมแล้วมีความเหมาะสมใน ระดับมากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.67 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.65
2. การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างและพัฒนาขึ้นโดยภาพรวมมีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนจากการจัดการเรียนการสอน
โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติงานประดิษฐ์ บายศรีปากชาม เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนมีคะแนนรวม (∑) เท่ากับ 227 ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 12.61 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 1.94 และหลังเรียนมีคะแนนรวม (∑) เท่ากับ 609 ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 33.83 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 1.82
3.2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนจากการจัด
การเรียนการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติงานประดิษฐ์ บายศรีปากชาม เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หลังเรียนมีคะแนนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.3 ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติงาน
ประดิษฐ์ บายศรีปากชาม เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของครูและนักเรียน โดยภาพรวมแล้วมีความพอใจในระดับมากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.52 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.50
ดังนั้นสรุปได้ว่า การวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติงานประดิษฐ์ บายศรีปากชาม เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับทักษะกระบวนการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพทางการศึกษาให้กับนักเรียน โดยนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารและกล้าแสดงออกที่ดียิ่งขึ้น ครูและโรงเรียน จะมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพเหมาะสมในการจัดการเรียนการสอนต่อไป