ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียนชั้น

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทาง

การเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนคร

เชียงใหม่

ชื่อผู้รายงาน นายสุจิต วาลีย์

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

ปีที่ศึกษา 2561

การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนการสอน รายวิชาหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาอัตราความก้าวหน้าทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ปีการศึกษา 2561 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้มาโดยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยใช้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ ทั้ง 11 โรงเรียน แล้วนำมาจัดทำเป็นกลุ่มควบคุม จำนวน 128 คน กลุ่มทดลอง จำนวน 130 คน เพื่อนำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ไปใช้จริง และกลุ่มทดลองใช้และหาประสิทธิภาพ Tryout (Individual Tryout/Small Group Tryout/Field Tryout) ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแบบสอบถามความรู้สึกนักเรียนเกี่ยวกับสภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอน แบบสอบถามครูเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนการสอน แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาสาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม และด้านสื่อนวัตกรรม แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างสำหรับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเหมาะสมและความเป็นไปได้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 11 เรื่อง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวนเรื่องละ 10 ข้อ รวม 110 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูลแนวคิดของผู้เชี่ยวชาญโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดียโดยการหาค่า E1 /E2 วิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยการใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละของคะแนนพัฒนาการ วิเคราะห์หาอัตราความก้าวหน้าทางการเรียนโดยใช้การคำนวณหาค่าดัชนีประสิทธิผลโดยใช้สูตร E.I. วิเคราะห์ความพึงพอใจโดยการใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ นำเสนอในรูปตารางประกอบคำบรรยาย

ผลการศึกษาพบว่า

1. สภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนการสอน รายวิชาหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ผลการวิจัยที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จากแหล่งข้อมูลที่สำคัญคือนักเรียนและครูผู้สอนเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนสาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม และจากการสรุปแนวคิดของผู้เชี่ยวชาญถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของนักเรียนและครูผู้สอนโดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าครูผู้สอนต้องมีสื่อประกอบการสอนและสื่อนั้นควรเป็นสื่อประเภทบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย

2. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้พัฒนาขึ้นแล้วนำไปใช้จริงกับกลุ่มทดลอง ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 5 โรงเรียน มีค่า E1/E2 เท่ากับ 85.06/83.96, 84.52/83.59, 84.64/82.68, 85.64/83.82 และ 87.73/85.40 แสดงว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ทีตั้งไว้

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยการดำเนินการเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มทดลอง ซึ่งเป็นนักเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 5 โรงเรียน กับกลุ่มควบคุม ซึ่งเป็นนักเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 5 โรงเรียน สามารถสรุปได้ว่า กลุ่มทดลองซึ่งเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยกลุ่มทดลองทั้ง 5 โรงเรียนมีร้อยละของคะแนนพัฒนาการโดยเฉลี่ยเท่ากับ 60.29 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มควบคุม โดยที่กลุ่มควบคุมทั้ง 5 โรงเรียน มีร้อยละของคะแนนพัฒนาการโดยเฉลี่ยเท่ากับ 31.16

4. อัตราความก้าวหน้าทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้พัฒนาขึ้นแล้วนำไปใช้จริงกับกลุ่มทดลอง ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 5 โรงเรียน มีอัตราความก้าวหน้าทางการเรียนโดยเฉลี่ยเท่ากับ 60.29

5. ความพึงพอใจของกลุ่มทดลอง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 5 โรงเรียน ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.90, S.D. = 0.24)

โพสต์โดย จ๊อด : [20 ส.ค. 2562 เวลา 09:57 น.]
อ่าน [4322] ไอพี : 101.51.195.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,383 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษาไทยให้สำเร็จ ต้องปฏิรูปทั้งระบบ โดย เพชร เหมือนพันธุ์
การปฏิรูปการศึกษาไทยให้สำเร็จ ต้องปฏิรูปทั้งระบบ โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 4,424 ครั้ง
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?

เปิดอ่าน 24,745 ครั้ง
ความผิดปกติที่เกิดจากการนอนส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คุณคิด
ความผิดปกติที่เกิดจากการนอนส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คุณคิด

เปิดอ่าน 7,878 ครั้ง
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน

เปิดอ่าน 19,958 ครั้ง
การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ

เปิดอ่าน 35,801 ครั้ง
ยิมนาสติก
ยิมนาสติก

เปิดอ่าน 38,616 ครั้ง
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!

เปิดอ่าน 10,444 ครั้ง
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย

เปิดอ่าน 18,371 ครั้ง
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที

เปิดอ่าน 18,793 ครั้ง
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20

เปิดอ่าน 49,801 ครั้ง
8 วิธีลดความเครียดให้แก่เด็ก
8 วิธีลดความเครียดให้แก่เด็ก

เปิดอ่าน 10,149 ครั้ง
เคล็ดลับกินอย่างฉลาด ปราศจากโรค
เคล็ดลับกินอย่างฉลาด ปราศจากโรค

เปิดอ่าน 14,950 ครั้ง
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"

เปิดอ่าน 11,804 ครั้ง
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย

เปิดอ่าน 49,240 ครั้ง
ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู
ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 39,014 ครั้ง
หน้าที่ชาวพุทธ
หน้าที่ชาวพุทธ
เปิดอ่าน 51,870 ครั้ง
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486
เปิดอ่าน 16,408 ครั้ง
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว
เปิดอ่าน 15,491 ครั้ง
พลาสติกห่อหุ้มอาหาร ภัยร้ายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง!
พลาสติกห่อหุ้มอาหาร ภัยร้ายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง!
เปิดอ่าน 11,983 ครั้ง
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ