ชื่อรายงาน ผลการใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ
เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นิมิต เจียมตน
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัด
การเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ก่อนเรียนและหลังเรียน
3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ต่อการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ที่มีกลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มเดียวและมีการทดสอบก่อนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design)
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านเชียงราย) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
จำนวนนักเรียน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 11 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
จำนวน 3 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.43-0.77 ค่าอำนาจจำแนก (B) ที่ระดับ 0.22 ขึ้นไป และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.83 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที t - test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 87.43/85.83 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ
เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.6272 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียน คิดเป็นร้อยละ 62.72
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะร่วมกับ
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด (x̄ =4.58, S.D = 0.49)