ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต กระบวนการคิด และกระบวนการกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย นางสาวสุภาวดี แซ่โค้ว
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี)
สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ปีที่ทำการวิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอน การใช้สื่อ และความต้องการ การจัดการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประชากร ที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 6 ห้องเรียน จำนวน 217 คน ซึ่งจัดห้องเรียนแบบคละความสามารถของผู้เรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน การใช้สื่อ ปัญหา ความต้องการในการจัดการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) สอบถามผู้เรียน ครู และผู้บริหาร จำนวน 25 ข้อ 2) ชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยที่ 4-8 จำนวน 5 ชุด รวม 5 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างเรียน จำนวน 60 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยที่ 4-8 จำนวน 30 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 ข้อ แบบแผนการวิจัยเป็นแบบวิจัยเชิงทดลอง (One Group Pretest-Posttest Designs) วิเคราะห์ข้อมูล
ด้วยค่าสถิติร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบสมมติฐานค่าที (t-test) แบบ dependent
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผู้เรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) และผู้กำกับลูกเสือต้องการให้มีการพัฒนาสื่อชุดการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) เพื่อให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ศึกษา จัดกิจกรรมเป็นรายกลุ่ม
2. ได้มีชุดการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ คำนำ วัตถุประสงค์ คู่มือครู และคู่มือผู้เรียนชุดการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มี 5 ชุด คือ ชุดที่ 1 ท่าบุคคลประกอบอาวุธ ชุดที่ 2 การใช้สัญญาณมือและสัญญาณนกหวีด ชุดที่ 3 การตั้งแถวและการเรียกแถว ชุดที่ 4 คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ และชุดที่ 5 กิจกรรมกลางแจ้ง ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพโดยรวม E1/E2 = 85.48/86.12
3. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย= 3.62, S.D. = 0.07)