|
|
ยุพารัตน์ กัณหา. 2562. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ค 23102 คณิตศาสตร์
เรื่องอสมการ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ค23102 คณิตศาสตร์ เรื่องอสมการ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านหนองผักก้าม ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้รายวิชา ค 23102 คณิตศาสตร์ เรื่องอสมการ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านหนองผักก้าม ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 70 และจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 เป็นนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 บ้านหนองผักก้าม ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) รูปแบบการศึกษาใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวงจรการปฏิบัติ 3 วงจร ดังนี้ วงจรที่ 1 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1-4 วงจรที่ 2 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5-9 วงจรที่ 3 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10-13 ใช้เวลาแผนการจัดการเรียนรู้ละ 1 ชั่วโมง รวมใช้เวลาทั้งหมด 13 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ จำนวน 13 แผน ใช้เวลา 13 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ ในการสะท้อนผลการปฏิบัติได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบสัมภาษณ์นักเรียน และแบบทดสอบย่อยท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้รายวิชา ค 23102 คณิตศาสตร์ เรื่องอสมการ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ (ซึ่งมีการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยใช้ค่า IOC และมีการหาค่าความเชื่อมั่นของทั้งฉบับได้เท่ากับ 0.93) ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากทุกแผนการจัดการเรียนรู้ ด้วยเครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ เมื่อสิ้นสุดแต่ละวงจรให้นักเรียนทำแบบทดสอบย่อยท้ายวงจร และทำการสะท้อนผลการปฏิบัติแล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์อภิปรายเพื่อปรับปรุงกิจกรรมเรียนรู้แต่ละวงจรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อนำไปใช้ในวงจรต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูลของการศึกษาครั้งนี้ ใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และสรุปเป็นความเรียง
ผลการศึกษาพบว่า
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ค 23102 คณิตศาสตร์ เรื่องอสมการ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรม 3 ขั้น ดังนี้ 1) ขั้นสร้างความขัดแย้งทางปัญญา เป็นขั้นเตรียมความพร้อมของนักเรียน และสร้างแรงจูงใจในการเรียนประกอบด้วย การแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และ ทบทวนความรู้เดิมเพื่อเป็นพื้นฐานที่นักเรียนจะนำไปเชื่อมโยงในการสร้างโครงสร้างใหม่ทางปัญญา ซึ่งในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ จะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ผลการจัดกิจกรรมในขั้นตอนนี้ พบว่านักเรียนทุกคนทราบเป้าหมายในการเรียนแต่ละชั่วโมง และมีความรู้พื้นฐานเพียงพอที่จะเรียนเนื้อหาใหม่ต่อไป รวมทั้งยังสามารถเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ได้ 2) ขั้นดำเนินกิจกรรมไตร่ตรอง ประกอบด้วย (1) กิจกรรมไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย โดยนักเรียนจะรวมกลุ่ม 4 คน แต่ละคนจะนำเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาต่อกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มแก้ปัญหาตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสม และบันทึกลงในใบงานกิจกรรมกลุ่มย่อย (2) กิจกรรมไตร่ตรองระดับชั้น คือตัวแทนแต่ละกลุ่มนำแนวทางแก้ปัญหาที่ได้เสนอต่อทั้งชั้น 3) ขั้นสรุปผลการสร้างโครงสร้างใหม่ทางปัญญาเป็นขั้นที่นักเรียนร่วมกันสรุปแนวคิดหลักการในเรื่องที่เรียนสมาชิกทุกคนจะอภิปราย และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน เพื่อเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่ดี และเหมาะสมที่สุด
ผู้ศึกษาได้พัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 วงจร ในตอนท้ายของแต่ละวงจรจะมีการสะท้อนผลการปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงแก้ไขและพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ในวงจรต่อๆไป ผลที่ได้จากการสังเกตการณ์จัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีโอกาสได้ฝึกการทำงานร่วมกัน มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน กล้าแสดงความคิดเห็น มีความสนใจและตั้งใจในการร่วมกิจกรรม ได้พัฒนาทักษะทางสังคม ได้ฝึกความรับผิดชอบและความมีระเบียบวินัยในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า นักเรียนจำนวนร้อยละ 73.04 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ 90.63 ของคะแนนเต็ม ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
|
โพสต์โดย ยุ : [18 ส.ค. 2562 เวลา 21:54 น.] อ่าน [4894] ไอพี : 223.206.236.167
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,132 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,008 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,593 ครั้ง
| เปิดอ่าน 140,584 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,649 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,379 ครั้ง
| เปิดอ่าน 49,416 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,957 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,001 ครั้ง
| เปิดอ่าน 61,325 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,571 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,335 ครั้ง
| เปิดอ่าน 350,707 ครั้ง
| เปิดอ่าน 76,276 ครั้ง
| เปิดอ่าน 112,438 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 38,876 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,011 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,125 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,696 ครั้ง
| เปิดอ่าน 50,795 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|