ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียน เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียน เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัย นางสถาพร ทาทอง ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาความต้องการในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตัวอย่าคือครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จานวน 83 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตัวอย่างคือผู้เชี่ยวชาญ จานวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้ (3.1) ศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3.2) เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3.3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม ปีการศึกษา 2561 จานวน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์น และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย

ผลการศึกษาความต้องการในการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทยตามความคิดเห็นของครูพบว่ามีความต้องการพัฒนาการเรียนรู้ใน มาตรฐาน ท 2.1 การเขียน อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.03 และเมื่อเรียงอันดับพบว่า ความต้องการพัฒนาในมาตรฐานที่ 2.1 ตามลาดับความต้องการจากมากไปน้อยคือ การเขียนบันทึกการเดินทาง การเขียนแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ การเขียนเรียงความ การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด การเขียนเรื่องจากภาพ และ มารยาทในการเขียนผู้วิจัยจึงได้นามากาหนดเนื้อหาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามความเหมาะสมของวัยและพัฒนาการ ดังนี้ 1) การเขียนคาขวัญ คาคม คติพจน์2) การเขียนแสดงความคิดเห็น3) การเขียนโฆษณาสินค้า 4) การเขียนเรียงความ 5) การเขียนนิทาน 6) การเขียนเรื่องเล่าจากประสบการณ์ และ7) การแต่งคาประพันธ์

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียน เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

2.1 ผลการศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการเรียนการสอนการเขียน เชิงสร้างสรรค์ สามารถสรุปสาระสาคัญของแนวคิดทฤษฎีเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการร่างรูปแบบการเรียนการสอนได้ ดังนี้ 1) แนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) 2) แนวคิดจิตวิทยากลุ่มเกสตัลท์ (Gestalt Psychology) 3) แนวคิดกลยุทธ์ส่งเสริมต่อการเรียนรู้ สแคฟโฟลดิง (Scaffolding)และ 4) แนวคิดการถ่ายโยงการเรียนรู้ (Transformative Learning Theory)

2.2 ผลการนาข้อมูลพื้นฐานที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล และแนวคิดทฤษฎีและข้อสรุป ที่ศึกษาไว้ มาดาเนินการยกร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียน เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มี 6 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการสอน มี 5 ขั้นตอน คือ (1) เตรียมความพร้อม (2) จัดการความคิด (3) ลาดับงานเขียน (4) สร้างสรรค์งานเขียน และ (5) นาเสนอผลงาน 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน 3. ผลการศึกษาการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้ 3.1 ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.01/80.62

3.2 ผลการเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเท่ากับ 4.51

โพสต์โดย ์Noi : [18 ส.ค. 2562 เวลา 08:20 น.]
อ่าน [4865] ไอพี : 27.55.164.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,731 ครั้ง
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า

เปิดอ่าน 20,835 ครั้ง
LearnSquare e-Learning Management System
LearnSquare e-Learning Management System

เปิดอ่าน 18,797 ครั้ง
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร

เปิดอ่าน 11,201 ครั้ง
ภัยจากการไม่กินผัก
ภัยจากการไม่กินผัก

เปิดอ่าน 11,279 ครั้ง
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข

เปิดอ่าน 17,099 ครั้ง
5 สมุนไพรเพื่อวัยสูงอายุ
5 สมุนไพรเพื่อวัยสูงอายุ

เปิดอ่าน 43,121 ครั้ง
"เสียงกู่จากครูใหญ่" หนังสั้นที่ปลุกพลังผู้เสียสละ เพื่อการศึกษา อนาคตของชาติ
"เสียงกู่จากครูใหญ่" หนังสั้นที่ปลุกพลังผู้เสียสละ เพื่อการศึกษา อนาคตของชาติ

เปิดอ่าน 11,486 ครั้ง
เคยได้ยินแต่ Copyright อย่างเดียว มาดูว่า Copyleft บ้าง
เคยได้ยินแต่ Copyright อย่างเดียว มาดูว่า Copyleft บ้าง

เปิดอ่าน 26,207 ครั้ง
แมลงมีพิษกัดต่อย
แมลงมีพิษกัดต่อย

เปิดอ่าน 13,250 ครั้ง
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้

เปิดอ่าน 68,916 ครั้ง
เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่(ขณะนี้ ก.ค.ศ.ให้ชะลอไปก่อน)
เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่(ขณะนี้ ก.ค.ศ.ให้ชะลอไปก่อน)

เปิดอ่าน 86,080 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 1,102 ครั้ง
BLOCKCHAIN คืออะไร ?
BLOCKCHAIN คืออะไร ?

เปิดอ่าน 16,515 ครั้ง
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology

เปิดอ่าน 10,859 ครั้ง
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่

เปิดอ่าน 11,119 ครั้ง
 ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
เปิดอ่าน 17,706 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
เปิดอ่าน 17,458 ครั้ง
การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น
การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น
เปิดอ่าน 14,239 ครั้ง
คนจีนแห่เที่ยวไทย ตามรอยหนังดัง Lost in Thailand ชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้กันเลย
คนจีนแห่เที่ยวไทย ตามรอยหนังดัง Lost in Thailand ชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้กันเลย
เปิดอ่าน 10,872 ครั้ง
กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ
กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ