ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

การวิจัยในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่เป็นเงื่อนไขในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2) พัฒนาและหาคุณภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL 4) ประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL ดังนี้ 4.1) ศึกษาประสิทธิภาพและดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL 4.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL 4.3) เปรียบเทียบความแตกต่างด้านทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL และ4.4) ศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL กลุ่มตัวอย่างสำหรับใช้ในการประเมินรูปแบบ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเมืองสมเด็จ จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL กลุ่มสาระการเรียนรูคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 13 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.72 ,ค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.44 ถึง 0.69 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.70 3) แบบทดสอบวัดทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก(B) ตั้งแต่ 0.26 ถึง 0.70 ,ค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.34 ถึง 0.78 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.72 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐานใช้ t-test (Dependent Samples) และการนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการพรรณนาวิเคราะห์

ผลการวิจัยพบว่า

1. การศึกษาสภาพและปัญหาด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่เป็นเงื่อนไขในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ครูควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสอนใหม่ ควรมีการจัดหานวัตกรรมที่แปลกใหม่ และส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่ครบทั้ง 5 ทักษะ นอกจากนี้ครูผู้สอนควรจะส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนได้ฝึกคิด ฝึกปฏิบัติและหาคำตอบโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย คอยกระตุ้นและเสริมแรงให้นักเรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็น คิดหาคำตอบด้วยตนเอง เพื่อเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนคณิตศาสตร์ให้นักเรียนต่อไป

2. การพัฒนาและหาคุณภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL ประกอบด้วยขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งหมด 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นนำเสนอปัญหา (P : Presenting Problem) 2) ขั้นแสดงเหตุผลในการแก้ปัญหา (R : Reason for solve Problem) 3) ขั้นเชื่อมโยงความรู้ (A : Action and Connect knowledge) 4) ขั้นกระบวนการกลุ่ม (G : Group and share) และ5) ขั้นสรุปและประเมินผล (E : Evaluation Process) โดยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีคุณภาพและความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.68, S.D.=0.12 )

3. การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี โดยนักเรียนแต่ละคนได้แสดงความสามารถของตนเองให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มได้เห็นทั้งการแสดงความคิดเห็นและการเสนอแนวคิดที่แตกต่างกัน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ครูผู้สอนจะคอยสนับสนุนและคอยช่วยเหลือเมื่อนักเรียนเกิดข้อสงสัยหรือมีปัญหา มีการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทดสอบวัดทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียน ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครูผู้สอนได้ทำการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในแต่ละชั่วโมง และได้บันทึกผลการสังเกตเอาไว้อย่างเป็นระบบ เมื่อครูทำการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครบทั้ง 13 แผนแล้วได้ทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทดสอบวัดทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์กับนักเรียนอีกครั้ง เพื่อนำเอาคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบกัน และให้นักเรียนทำแบบสอบถามความพึงพอใจ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปสรุปผลการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

4. การประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สรุปผลดังนี้

4.1 การวิเคราะห์ประสิทธิภาพและดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL

4.1.1 ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL กับคะแนนที่ได้จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (หลังเรียน) (E1/E2 ) มีค่าเท่ากับ 81.29/79.33 และประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL กับคะแนนที่ได้จากการทดสอบวัดทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ (E1 / E2 ) มีค่าเท่ากับ 81.29/80.67

4.1.2 ผลการวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6863 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีพัฒนาการทางการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 68.63

4.1.3 ผลการวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7036 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีพัฒนาการทางด้านทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 70.36

4.2 การวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4.3 การวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างด้านทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีพัฒนาการทางด้านทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4.4 การวิเคราะห์ความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ PRAGE MODEL พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ PRAGE MODEL อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.77, S.D.=0.44 )

โพสต์โดย นางกัลยา เจาะจง : [17 ส.ค. 2562 เวลา 17:55 น.]
อ่าน [4958] ไอพี : 223.206.246.153
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 44,637 ครั้ง
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน

เปิดอ่าน 11,201 ครั้ง
ภัยจากการไม่กินผัก
ภัยจากการไม่กินผัก

เปิดอ่าน 24,742 ครั้ง
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล

เปิดอ่าน 11,305 ครั้ง
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad

เปิดอ่าน 10,662 ครั้ง
ดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ช่วยลดน้ำหนักได้ จริงหรือ? / พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล
ดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ช่วยลดน้ำหนักได้ จริงหรือ? / พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล

เปิดอ่าน 18,773 ครั้ง
กินยาให้ถูกโรค
กินยาให้ถูกโรค

เปิดอ่าน 54,553 ครั้ง
เผยแพร่ตัวอย่างเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2561)ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
เผยแพร่ตัวอย่างเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2561)ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

เปิดอ่าน 13,791 ครั้ง
ปรับ "ฮวงจุ้ย" ด้วยทิศมงคล เสริมดวงปี 2557
ปรับ "ฮวงจุ้ย" ด้วยทิศมงคล เสริมดวงปี 2557

เปิดอ่าน 8,282 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

เปิดอ่าน 38,456 ครั้ง
การใช้อินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อคะแนนวิทยาศาสตร์ : FOCUS ประเด็นจาก PISA : ฉบับที่ 33 (กันยายน 2561)
การใช้อินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อคะแนนวิทยาศาสตร์ : FOCUS ประเด็นจาก PISA : ฉบับที่ 33 (กันยายน 2561)

เปิดอ่าน 9,711 ครั้ง
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)

เปิดอ่าน 10,701 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 11,745 ครั้ง
คำสัญญาที่ว่างเปล่า
คำสัญญาที่ว่างเปล่า

เปิดอ่าน 35,049 ครั้ง
จำนวนตรรกยะ
จำนวนตรรกยะ

เปิดอ่าน 21,666 ครั้ง
พระสยามเทวาธิราช
พระสยามเทวาธิราช

เปิดอ่าน 11,909 ครั้ง
"ราชบัณฑิตยสภา"
"ราชบัณฑิตยสภา"
เปิดอ่าน 14,234 ครั้ง
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน
เปิดอ่าน 1,591 ครั้ง
จัดบ้านให้ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ
จัดบ้านให้ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ
เปิดอ่าน 16,061 ครั้ง
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 25,412 ครั้ง
การใช้งานโปรแกรม Google Earth
การใช้งานโปรแกรม Google Earth

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ