ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยโดยการมีส่วนร่วม
ของผู้ปกครอง โรงเรียนเทศบาล ๓ ห้าธันวาคม
ผู้วิจัย นางสาวกาญจนา โสมณวัฒน์
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๓ ห้าธันวาคม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
กระทรวงมหาดไทย
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนารูปแบบส่งเสริมนิสัยการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยโดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบ แบ่งขั้นตอนการวิจัยเป็น 4 ขั้น ได้แก่ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) สร้างรูปแบบ 3) ทดลองใช้รูปแบบ และ 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบส่งเสริมนิสัยรักการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยโดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง กลุ่มเป้าหมายการวิจัย ได้แก่ ผู้ปกครองของนักเรียนระดับชั้นอนุบาล โรงเรียนเทศบาล ๓ ห้าธันวาคม จำนวน 10 ครอบครัว โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ปกครองจากแต่ละอาชีพสมัครใจเข้าร่วมการวิจัย สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถอ่านเขียนหนังสือภาษาไทยได้ และมีความพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรมตามรูปแบบการพัฒนา ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการวิจัยเป็นเวลา 10 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยคู่มือการจัดกิจกรรมตามรูปแบบส่งเสริมนิสัยรักการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยโดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง แบบสัมภาษณ์ผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน แบบบันทึกการสนทนากลุ่มผู้ปกครอง แบบสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญถึงแนวทางการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย แบบประเมินนิสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย และแบบสัมภาษณ์ความพึงพอใจของผู้ปกครองในการใช้รูปแบบ
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า การส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านจะต้องได้รับการปลูกฝังมาแต่เยาว์วัยจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กทั้งที่บ้านและโรงเรียน
2.รูปแบบที่สร้างขึ้นมี 6 องค์ประกอบได้แก่ 1) ความเป็นมาและความสำคัญ 2) หลักการ ทฤษฎี และแนวคิดพื้นฐาน 3) วัตถุประสงค์ 4) กระบวนการจัดกิจกรรม 5) บทบาทของผู้เกี่ยวข้อง 6) การประเมินความสำเร็จโดยกระบวนการจัดกิจกรรมตามรูปแบบกำหนดเป็น 3 ขั้น คือ ขั้น H (Harmony) ครอบครัวอุ่นรักสามัคคี ขั้น U (Utility) มีบรรยากาศน่าสนใจ ขั้น G (Grow) ปลูกปั้นนิสัยรักการอ่าน
3. ผลการศึกษาพฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัยในสัปดาห์ที่ 1(x ̅=2.96, S.D. = 0.47) สัปดาห์ที่ 4 (x ̅ =3.89, S.D. = 0.38) สัปดาห์ที่ 7(x ̅ =4.55,S.D. = 0.49) และสัปดาห์ที่ 10 (x ̅ =4.64, S.D. = 0.39) ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นทุกระยะและเด็กแสดงพฤติกรรมการอ่านตามตัวบ่งชี้การมีนิสัยรักการอ่านอยู่ในระดับเป็นประจำส่วนผู้ปกครองมีความพึงพอใจในการใช้รูปแบบ โดยเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อเด็กปฐมวัย
4. รูปแบบส่งเสริมนิสัยรักการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยโดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง มีการปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิทั้งด้านการใช้ภาษา ความคงที่ในการใช้คำ การเพิ่มแหล่งข้อมูลอ้างอิงและปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน และการนำเสนอกิจกรรมให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม