ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นายจิรยุทธ์ หล่อยดา ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์วงจรไฟฟ้าที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม ในปีการศึกษา 2560 2)หาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา 4) เปรียบเทียบทักษะปฏิบัติก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา 5) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา และ6) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา การวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research And Development) ประชากรเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 ห้องเรียน จำนวน 80 คนกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่1/2 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยมที่เรียนรายวิชาไฟฟ้า1 (ไฟฟ้าเบื้องต้น) หน่วยที่ 3 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1)แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชาไฟฟ้า1(งานไฟฟ้าเบื้องต้น) รหัส ง20261 หน่วยที่ 3 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหาร่วมกับชุดฝึกปฏิบัติการวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบทดสอบวัดทักษะปฏิบัติ 4) แบบทดสอบวัดทักษะการแก้ปัญหา และ5) แบบสอบถามความพึงพอใจนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที(t-test) แบบ Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลจาการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น มีชื่อว่า IBETPC มีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้ ทักษะกระบวนการเรียน สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม สิ่งสนับสนุน และหลักการตอบสนอง กระบวนการเรียนการสอนมี 6 ขั้นตอน คือ1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน(Introduction to the lesson) 2) ขั้นฐานความรู้เดิม (Basic knowledge base) 3) ขั้นสร้างประสบการณ์(Experience building) 4) ขั้นสอนและสาธิต(Teaching and demonstration) 5) ขั้นฝึกปฏิบัติและแก้ปัญหา (Practice And Solve Problems) 6) ขั้นสร้างองค์ความรู้ที่ยั่งยืน (Create a sustainable knowledge base)
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.07/82.44 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4. ทักษะปฏิบัติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
5. ทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
6. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ที่ส่งเสริมทักษะปฏิบัติและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.59 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.77 แปลผลโดยรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด