บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัด การเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.2) เพื่อศึกษาคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะ อยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านทรายทอง) ตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส สังกัดเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวนทั้งสิ้น 40 คน ประกอบด้วย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 20 คน และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 20 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 20 คน โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านทรายทอง) ตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบวิเคราะห์ข้อมูล จำนวน 1 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จำนวน 1 ฉบับ ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น จำนวน 10 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 50 ข้อ แบบสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 3 ฉบับ และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การหาค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า มีความจำเป็นที่ต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือที่หลากหลาย
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุ ในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มี 5 ขั้นตอน พบว่า มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.58/84.37 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 คุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากการเรียนรู้ด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัด การเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ในภาพรวมมีระดับความพึงพอใจมาก