การค้นคว้าอิสระ ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานตามระบบดูแล
ช่วยเหลือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนบ้านคลองครก
อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี
ชื่อ- สกุล ผู้ศึกษา นวพร ส่งเสริม
ปริญญา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
อาจารย์ที่ปรึกษา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุเทพ เชาวลิต
ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนบ้านคลองครก อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนบ้านคลองครก อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ปีการศึกษา 2558 จำนวน 200 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถาม ซึ่งได้ศึกษาและพัฒนามาจากเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้องและขอคำแนะนำอาจารย์ที่ปรึกษาตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้เก็บรวบรวมข้อมูลสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ผู้ปกครองนักเรียน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 125 คน คิดเป็นร้อยละ 62.5 และเพศชาย จำนวน 75 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 ส่วนใหญ่มีอายุ 30 40 ปี จำนวน 94 คน คิดเป็นร้อยละ 47.0 รองลงมาต่ำกว่า 30 ปี จำนวน 74 คน คิดเป็นร้อยละ 37.0 และอายุ 41 ปีขึ้นไป จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 16.0 ส่วนใหญ่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 52.0 รองลงมาวุฒิการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จำนวน 76 คน คิดเป็นร้อยละ 38.0 และวุฒิการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 10.0 ส่วนใหญ่มีอาชีพรับราชการ จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 34.0 รองลงมาอาชีพธุรกิจส่วนตัว จำนวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 24.5 อาชีพรับจ้าง จำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 20.5 อาชีพอื่นๆ จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 13.0 และอาชีพค้าขาย จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 8.0
2. ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนบ้านคลองครก อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี :โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา อยู่ในอันดับแรก รองลงมาด้านการคัดกรองนักเรียน และด้านการส่งเสริมนักเรียน ส่วนด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล อยู่ในอันดับสุดท้าย และด้านการส่งต่อนักเรียน อยู่ในสองอันดับสุดท้าย