บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ เทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสงทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสงทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสงทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4)เพื่อประเมินผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสงทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) แบบประเมินความสามารถด้านนาฏศิลป์ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง รำทุ่งสงทุ่งสวรรค์ ซึ่งผ่านการหาคุณภาพของแบบประเมิน โดย มีการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างคำถามและจุดประสงค์ (IOC) อยู่ระหว่าง 0.50-1.0 ค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 และได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เป็นแบบประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 20 ข้อ ที่ผ่านการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยมีค่าความตรงเชิงเนื้อหา (IOC) อยู่ระหว่าง 0.50-1.0 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที แบบไม่อิสระจากกัน (t test Dependent)
ผลการวิจัย พบว่า
จากการวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ เทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปผลกการวิจัยดังต่อไปนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสงทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการวิเคราะห์หลักสูตร สัมภาษณ์ครูผู้สอน และนักเรียน ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับความต้องการในการจัดการเรียนการสอน พบว่า เป้าหมายของหลักสูตรต้องการให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญและใส่ใจในศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ถูกต้องและเรียนรู้สู่การนำไปใช้ในชีวิตจริง ส่วนแนวนโยบายได้กำหนดไว้ว่า ให้ส่งเสริมให้ผู้เรียนตระหนักถึงบทบาทของตนเองในบริบทของการสะท้อนวัฒนธรรมทั้งของตนเองและวัฒนธรรมอื่น ให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนสอดแทรกประเพณี วัฒนธรรมและความเป็นท้องถิ่นให้กับผู้เรียนเพื่อสืบทอดและรักษาไว้ ครูมีความจำเป็นและมีความต้องการด้านการจัดการเรียนการสอนนาฏศิลป์ ได้แก่ ต้องการความรู้ในการจัดการเรียนการสอน วิธีการ เทคนิคการสอนและสื่อการเรียนการสอนที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้เพื่อการพัฒนานาฏศิลป์ ที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ต้องการเทคนิควิธีการสอนที่กระตุ้น จูงใจ เร้าความสนใจในการเรียน นักเรียนต้องการกิจกรรมที่เน้นการฝึกปฏิบัติที่ร่วมกันทำกิจกรรมกลุ่มเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
2. ผลการออกแบบได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า Pwlpape Model โดยมีส่วนประกอบ ดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน เนื้อหาสาระการเรียนรู้ สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนองและสิ่งสนับสนุน กระบวนการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 เตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 วางแผนร่วมเรียนรู้ ขั้นที่ 3 เชื่อมโยงสู่เนื้อหา ขั้นที่ 4 ฝึกตนเองตามแบบอย่าง ขั้นที่ 5 ประยุกต์ใช้สร้างสรรค์ ขั้นที่ 6 นำเสนอผลงาน ขั้นที่ 7 ประเมินผลการเรียนรู้ ตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำ ทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 0.89 ผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก (x̄ = 4.86 )และเมื่อนำไปหาค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 86.10/.85.93 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 80/80
3. ผลการทดลองใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ เทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 38 คน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างในการทดลองครั้งนี้ นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 โดยค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ผลการประเมินผลและปรับปรุง รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสงทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 38 คน ซึ่งเป็นนักเรียนกลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่องรำทุ่งสง ทุ่งสวรรค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ยรวม 4.66 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.19 อยู่ในระดับมากที่สุด