|
|
บทคัดย่อ
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีความสำคัญในการพัฒนากระบวนการคิด ให้ผู้เรียนรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล มีความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ปัญหา การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากในการพัฒนาทางการศึกษา ผู้วิจัยได้เคยทำการสอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที 5 ซึ่งนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ จึงทำให้ผู้วิจัยคิดอยากที่จะพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดี ขึ้นโดยได้ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบต่างๆ และเห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL น่าจะเหมาะและ
ช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL และกิจกรรมการเรียนรู้ตามปกติ เรื่อง บทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL และกิจกรรมการเรียนรู้ตามปกติ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL และกิจกรรมการเรียนรู้ตามปกติ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL เรื่องบทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/6 จำนวน 38 คนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น ได้มาโดยการ Two - stage sampling เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL จำนวน 18 แผน และแผนการจัดการเรียนรู้ตามปกติ จำนวน 18 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.75 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.32 ถึง 0.96 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.986 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จานวน 30 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.78 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.87 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.98 4) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องบทประยุกต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL จำนวน 20 ข้อ มีอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.234 ถึง 0.775 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.835 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยสวนเบี่ยงแบนมาตรฐาน ร้อยละ และทดสอบสมมติฐานใช้ Hotellings-T2 ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคSTAD ร่วมกับเทคนิค KWDL และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามปกติ มีประสิทธิภาพ 82.01/79.90 และ 75.50/75.27 ตามลำดับ
2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิค KWDL และดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามปกติ เท่ากับ 0.6912 และ0.6372 ตามลำดับ
3. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคKWDL มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทประยุกต์ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์สูงกว่านักเรียนที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่ได้รับการเรียนด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคKWDL เรื่อง บทประยุกต์ มีระดับความพึงพอใจในการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย พร : [13 ส.ค. 2562 เวลา 12:43 น.] อ่าน [3001] ไอพี : 1.46.97.227
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 41,117 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,333 ครั้ง
| เปิดอ่าน 75,999 ครั้ง
| เปิดอ่าน 849 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,682 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,700 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,873 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,465 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,875 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,337 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,330 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,248 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,517 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,916 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,626 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 8,436 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,841 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,954 ครั้ง
| เปิดอ่าน 77,331 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,634 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|