บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ซึ่งมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังต่อไปนี้ 1) เพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป
กลุ่มตัวอย่างในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ปีการศึกษา 2560 ภาคเรียนที่ 1 จำนวนนักเรียน 40 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (cluster random sampling) ใช้หน่วยสุ่มเป็นห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง รอบรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 เล่ม 2) คู่มือการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง รอบรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคุณภาพอยู่ในระดับเหมาะสมมาก 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.43 ถึง 0.80 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20 ถึง 0.53 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทั้งฉบับเท่ากับ 0.99 4) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ แบบแผนที่ใช้ในการทดลอง เป็นแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว ที่มีการทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน (One Group Pretest-Posttest Design) และมีขั้นตอนการศึกษาค้นคว้าดังนี้ 1) สร้างบทเรียนสำเร็จรูป 2) ประเมินคุณภาพของบทเรียนสำเร็จรูป โดยผู้เชี่ยวชาญ 3) ดำเนินการทดลองกับกลุ่มที่มีลักษณะใกล้เคียงกับประชากร 3 ครั้ง คือ ทดลองครั้งที่ 1 กลุ่มแบบหนึ่งต่อหนึ่ง 3 คน ครั้งที่ 2 กลุ่มเล็ก 9 คน ครั้งที่ 3 กลุ่มภาคสนาม 30 คน ก่อนนำไปใช้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง 4) ดำเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเพื่อหาประสิทธิภาพของการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม 2560 ถึงวันที่ 25 กันยายน 2560 ซึ่งไม่รวมระยะเวลา การปฐมนิเทศ การทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)) และ t-test for Dependent Samples
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพ ของการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ที่ผู้รายงานพัฒนาและสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.31/85.19 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผล ของการเรียนรู้ด้วยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป มีค่าเท่ากับ 0.7516 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7516 คิดเป็นร้อยละ 75.16
3. การเปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ผลที่ได้จากการศึกษา พบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจหลังจากการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.60, SD = 0.50) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ