ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแน

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อ 1) สำรวจสภาพปัจจุบันและปัญหาการเรียนการสอนรายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) สร้างและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ 3) ศึกษาผลการใช้จากการเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 80 และ 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 เพื่อสำรวจสภาพปัจจุบันและปัญหาการเรียนการสอนรายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานพบว่า นักเรียนมีความสามารถสนใจในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ เนื่องจากนักเรียนต้องการศึกษาด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ผู้เชี่ยวชาญการสอนสังคมศึกษา เห็นด้วยกับการเรียนการสอนชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ ที่จะนำมาพัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่สนใจในการเรียน และสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ

ขั้นตอนที่ 2 เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ ให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน พิจารณาความเหมาะสมขององค์ประกอบต่าง ๆ ของชุดการเรียนรู้ นำไปทดลองใช้กับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 คน เพื่อหาความเหมาะสมในเรื่องความชัดเจนของภาษา เนื้อหา และเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม นำไปทดลองกับ นักเรียนจำนวน 9 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ ตามเกณฑ์ 70/70 นำไปทดลองกับนักเรียนจำนวน 30 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ ตามเกณฑ์ 80/80 เครื่องมือในการวิจัย คือ ชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ จำนวน 7 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า E1/E2

ขั้นตอนที่ 3 การเปรียบเทียบความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ระหว่าง ก่อนเรียน และหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ เพื่อเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 80 เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ ชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ จำนวน 7 ชุด แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณและวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t – test แบบ One – sample)

ขั้นตอนที่ 4 การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการ จำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลจากการวิจัย พบว่าชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 83.74/81.86 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด การเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 และพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชา ส23105 พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวโยนิโสมนสิการโดยเฉลี่ย รายด้านปัจจัยนำเข้ามีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.67 , S.D. เท่ากับ 0.47 รายด้านกระบวนการ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.84 , S.D. เท่ากับ 0.19 และรายด้านผลผลิต เท่ากับ 4.77, S.D. เท่ากับ 0.31 ทุกรายด้านและรายข้อ มีระดับความพึงพอใจในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย สุวรรณี เรืองถาวรกุล : [12 ส.ค. 2562 เวลา 16:55 น.]
อ่าน [71776] ไอพี : 223.205.236.114
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,784 ครั้ง
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?

เปิดอ่าน 60,450 ครั้ง
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive

เปิดอ่าน 13,748 ครั้ง
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 2,372 ครั้ง
ทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เปิดอ่าน 12,695 ครั้ง
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน

เปิดอ่าน 13,716 ครั้ง
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...

เปิดอ่าน 58,743 ครั้ง
จิตวิทยาการเรียนรู้ภาษา
จิตวิทยาการเรียนรู้ภาษา

เปิดอ่าน 11,589 ครั้ง
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล

เปิดอ่าน 32,106 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 304 ครั้ง
เปรียบเทียบ Jazz Bar: ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและดนตรีระหว่างไทยกับอเมริกัน | Music Collection
เปรียบเทียบ Jazz Bar: ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและดนตรีระหว่างไทยกับอเมริกัน | Music Collection

เปิดอ่าน 18,760 ครั้ง
ผลมะเฟือง กินดี ควบคุมน้ำหนัก
ผลมะเฟือง กินดี ควบคุมน้ำหนัก

เปิดอ่าน 4,473 ครั้ง
เลือก "เคาน์เตอร์ครัว" ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำครัว
เลือก "เคาน์เตอร์ครัว" ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำครัว

เปิดอ่าน 1,752 ครั้ง
เดินทางกับ Cathay Pacific พร้อมทริคจองตั๋วราคาในประหยัด
เดินทางกับ Cathay Pacific พร้อมทริคจองตั๋วราคาในประหยัด

เปิดอ่าน 9,574 ครั้ง
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา

เปิดอ่าน 29,898 ครั้ง
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ

เปิดอ่าน 1,516 ครั้ง
บัตรกดเงินสด ตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
บัตรกดเงินสด ตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
เปิดอ่าน 35,748 ครั้ง
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
เปิดอ่าน 35,067 ครั้ง
มาตรฐานห้องสมุดและตัวบ่งชี้ เพื่อพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน สังกัด สพฐ.
มาตรฐานห้องสมุดและตัวบ่งชี้ เพื่อพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน สังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 12,619 ครั้ง
รักต้องเปิด (แน่นอก ) เวอร์ชั่นนี้ ฮาระเบิดระเบ้อ!
รักต้องเปิด (แน่นอก ) เวอร์ชั่นนี้ ฮาระเบิดระเบ้อ!
เปิดอ่าน 28,320 ครั้ง
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ