ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย นางวารุณี ปิ่นสันเทียะ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนพระทองคำวิทยา อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา

สำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่พิมพ์เผยแพร่ 2561

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) สร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน คือ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระทองคำวิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย การจัด การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ การสนทนากลุ่มของครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนพระทองคำวิทยา แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนพระทองคำวิทยา อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลสภาพปัจจุบันและความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่าสภาพปัจจุบันการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เรียนตามเนื้อหาวิชา เน้นความรู้ความจำ นักเรียนไม่เห็นคุณค่าของการอ่านเท่าที่ควร ไม่ชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่มีความยาวมากเกินไป ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย และส่งผลให้นักเรียนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่อง ที่อ่าน ไม่สามารถคิดวิเคราะห์เรื่องที่อ่านได้ ทำให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยต่ำลง และขาดทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ ความต้องการจะต้องพัฒนาวิธีการอ่านโดยการฝึกฝนจนเกิดทักษะสร้างนิสัยให้รักการอ่านและเป็นนักอ่านที่ดีให้แก่นักเรียน ช่วยเพิ่มพูนความรู้ ความคิดและประสบการณ์จากการอ่านคิดวิเคราะห์

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สาระหลัก และเงื่อนไขในการนำไปใช้ โดยมีขั้นตอน 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การตั้งข้อสงสัย 2) การปรับตัวสู่การเรียนรู้ 3) การอ่านและคิดตาม 4) การสร้างความเข้าใจ 5) การต้องตั้งคำถามและอภิปราย 6) การตรวจสอบ และ 7) การประเมินผลและลงข้อสรุป เมื่อนำไปทดลองใช้กับนักเรียนแบบภาคสนาม จำนวน 40 คน พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.06/81.92 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ WARUNEE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูน้อย : [12 ส.ค. 2562 เวลา 11:55 น.]
อ่าน [3471] ไอพี : 159.192.222.70
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,235 ครั้ง
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน

เปิดอ่าน 15,730 ครั้ง
ปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ราบ
ปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ราบ

เปิดอ่าน 17,124 ครั้ง
พุทธคุณ 9
พุทธคุณ 9

เปิดอ่าน 14,883 ครั้ง
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน

เปิดอ่าน 9,429 ครั้ง
ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่
ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่

เปิดอ่าน 5,034 ครั้ง
เผยเด็กไทยเจนวายหวังรวยทางลัด หันเล่นหุ้นเหมือนเด็กจีน
เผยเด็กไทยเจนวายหวังรวยทางลัด หันเล่นหุ้นเหมือนเด็กจีน

เปิดอ่าน 13,907 ครั้ง
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร

เปิดอ่าน 22,894 ครั้ง
วิธีเก็บไข่ให้ได้นานๆ
วิธีเก็บไข่ให้ได้นานๆ

เปิดอ่าน 22,427 ครั้ง
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)

เปิดอ่าน 54,845 ครั้ง
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)

เปิดอ่าน 2,387 ครั้ง
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?

เปิดอ่าน 8,060 ครั้ง
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2

เปิดอ่าน 16,224 ครั้ง
5 สมุนไพรเพื่อวัยสูงอายุ
5 สมุนไพรเพื่อวัยสูงอายุ

เปิดอ่าน 11,754 ครั้ง
7 วิธีใช้คอมพิวเตอร์ แบบทำร้ายตัวเอง
7 วิธีใช้คอมพิวเตอร์ แบบทำร้ายตัวเอง

เปิดอ่าน 10,586 ครั้ง
กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด
กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด

เปิดอ่าน 11,545 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เปิดอ่าน 15,625 ครั้ง
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
เปิดอ่าน 21,042 ครั้ง
ทฤษฎีสำหรับ E-Learning
ทฤษฎีสำหรับ E-Learning
เปิดอ่าน 14,893 ครั้ง
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
เปิดอ่าน 26,676 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ