ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์ โดยใช้

กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้ศึกษา ไอยา ช้างแก้ว

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรม การเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) เทศบาลนครยะลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 25 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์ จำนวน 4 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 15 แผน 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-20) 0.82 และ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่น ( ) เท่ากับ 0.84 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีเปรียบเทียบกลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีความเป็นอิสระต่อกัน (t- test Dependent Samples) พบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สืบสาน ตำนานนาฏศิลป์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.09/84.20 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

2.กผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01

3.กดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเท่ากับ 0.7322 แสดงว่าหลังจากนักเรียนได้เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7322 หรือคิดเป็นร้อยละ 73.22 ซึ่ง สูงกว่าเกณฑ์ 0.70 ที่ตั้งไว้

4.กความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.66 S.D=0.28)

โพสต์โดย thestar : [11 ส.ค. 2562 เวลา 19:07 น.]
อ่าน [3878] ไอพี : 184.22.141.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,425 ครั้ง
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ

เปิดอ่าน 4,358 ครั้ง
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ

เปิดอ่าน 1,788 ครั้ง
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด

เปิดอ่าน 1,398 ครั้ง
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า

เปิดอ่าน 15,043 ครั้ง
เจ้านายจู้จี้ ขี้บ่น ทำยังไงดี
เจ้านายจู้จี้ ขี้บ่น ทำยังไงดี

เปิดอ่าน 15,540 ครั้ง
การเลือกโต๊ะสำหรับการเขียนหนังสือ
การเลือกโต๊ะสำหรับการเขียนหนังสือ

เปิดอ่าน 63,817 ครั้ง
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร

เปิดอ่าน 19,077 ครั้ง
ภูมิปัญญาชาวบ้าน
ภูมิปัญญาชาวบ้าน

เปิดอ่าน 467,918 ครั้ง
Nouns ( คำนาม ) Types ( ชนิดของคำนาม )
Nouns ( คำนาม ) Types ( ชนิดของคำนาม )

เปิดอ่าน 292,226 ครั้ง
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่

เปิดอ่าน 61,585 ครั้ง
Nouns  ( Subject - Verb Agreement )
Nouns ( Subject - Verb Agreement )

เปิดอ่าน 40,297 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น

เปิดอ่าน 11,541 ครั้ง
Paperman การ์ตูนสั้น ชิงรางวัลออสการ์ การ์ตูนสุดโรแมนติกจาก ดิสนี่ย์
Paperman การ์ตูนสั้น ชิงรางวัลออสการ์ การ์ตูนสุดโรแมนติกจาก ดิสนี่ย์

เปิดอ่าน 17,568 ครั้ง
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551

เปิดอ่าน 30,908 ครั้ง
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก

เปิดอ่าน 9,709 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)
เปิดอ่าน 9,072 ครั้ง
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?
เปิดอ่าน 16,137 ครั้ง
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ
เปิดอ่าน 12,061 ครั้ง
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ
เปิดอ่าน 26,759 ครั้ง
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ