ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ วิชาภาษาไทย โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ แบบร่วมมือตามวิธี STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ วิชาภาษาไทย โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

ผู้วิจัย : นางกัญญาภัค ศรีดี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนไตรมิตร อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่ทำวิจัย : ๒๕๖๐

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) สร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ และ ๓) ประเมินความพึงพอใจต่อการใช้แผน การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ประชากรที่ใช้ในการทดลอง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนไตรมิตร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน ๙๖ คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนไตรมิตร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน ๓๖ คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) โดยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย เรื่อง การอ่านจับใจความแบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ ค่า t – test ผลการวิจัยพบว่า การวิจัย เรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการ อ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สามารถสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้ ๑. แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ทั้งหมด ๑๒ แผน ซึ่งแบ่งเป็น ๖ เรื่อง มีประสิทธิภาพแผนจัดการเรียนรู้ เท่ากับ ๘๒.๓๔ / ๘๓.94 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ ๘๐/๘๐ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ๒. ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านจับใจความ หลังเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ตามวิธี STAD พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านจับใจความ หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕ ๓. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีต่อการจัดการ เรียนรู้ แบบร่วมมือตามวิธี STAD โดยภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD อยู่ในระดับมาก ( X-bar ๔.๔๕, S.D. = ๐.๕๔)

โพสต์โดย nom : [11 ส.ค. 2562 เวลา 14:24 น.]
อ่าน [4962] ไอพี : 182.232.26.158
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,457 ครั้ง
แหล่งไหว้พระ ขอพร ถอนเคราะห์สะเดาะกรรม ปี 2009
แหล่งไหว้พระ ขอพร ถอนเคราะห์สะเดาะกรรม ปี 2009

เปิดอ่าน 66,815 ครั้ง
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก

เปิดอ่าน 1,160 ครั้ง
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่

เปิดอ่าน 23,433 ครั้ง
เรื่องน่ารู้ของ "ขิงป่า"
เรื่องน่ารู้ของ "ขิงป่า"

เปิดอ่าน 239,399 ครั้ง
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 31,295 ครั้ง
ตำนานนางสงกรานต์
ตำนานนางสงกรานต์

เปิดอ่าน 9,992 ครั้ง
ทางพ้นทุกข์
ทางพ้นทุกข์

เปิดอ่าน 19,331 ครั้ง
เทคนิคเจ๋งๆ ผสมไข่เเดงให้เข้ากัน ทำอย่างไรไปชมกันเลย
เทคนิคเจ๋งๆ ผสมไข่เเดงให้เข้ากัน ทำอย่างไรไปชมกันเลย

เปิดอ่าน 16,168 ครั้ง
ไมโครซอฟท์ประกาศ ยุติโปรแกรม Paint แล้ว หลังอยู่คู่วินโดวส์มา 32ปี!
ไมโครซอฟท์ประกาศ ยุติโปรแกรม Paint แล้ว หลังอยู่คู่วินโดวส์มา 32ปี!

เปิดอ่าน 32,751 ครั้ง
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด

เปิดอ่าน 136,659 ครั้ง
องค์ประกอบของระบบ
องค์ประกอบของระบบ

เปิดอ่าน 227,263 ครั้ง
รูปแบบจำลอง S M C R Model
รูปแบบจำลอง S M C R Model

เปิดอ่าน 11,553 ครั้ง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง

เปิดอ่าน 14,507 ครั้ง
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า

เปิดอ่าน 5,835 ครั้ง
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022

เปิดอ่าน 15,283 ครั้ง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง
เปิดอ่าน 10,391 ครั้ง
7 โรคอันตราย ที่มักเกิดกับสาว ๆ มากกว่าผู้ชาย !
7 โรคอันตราย ที่มักเกิดกับสาว ๆ มากกว่าผู้ชาย !
เปิดอ่าน 10,144 ครั้ง
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เปิดอ่าน 15,992 ครั้ง
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน
เปิดอ่าน 62,255 ครั้ง
ไอเดียทำธุรกิจแบบอินดี้ ทำก่อน รวยก่อน!
ไอเดียทำธุรกิจแบบอินดี้ ทำก่อน รวยก่อน!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ