บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ
วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้รายงาน นายฐิติวิวัฒน์ เดชกุญชร
หน่วยงานที่สังกัด โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2559 2560
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อปรับปรุงและแก้ไขรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ขั้นตอนที่ 4 การปรับปรุงและแก้ไขรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 35 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แบบสอบถาม จำนวน 3 ฉบับ ฉบับผู้บริหาร ฉบับครู ฉบับนักเรียน 2)แบบฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน จำนวน 6 ชุด 3) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 40 ข้อ ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .20-.80 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20 - .80 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ 0.82 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนจำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และสถิติทดสอบ t-test แบบ dependent samples
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้บริหาร ได้มีการส่งเสริมการจัดแหล่งวิทยาการต่าง ๆ ในโรงเรียนให้สอดคล้องกับสภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้สอน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมปฏิบัติอยู่ในระดับดี ปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เป็นปัญหาของครู โดยภาพรวมมีปัญหาระดับมาก ได้แก่ ครูขาดนวัตกรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ ครูขาดการพัฒนาเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใหม่ๆ ปัญหาที่เกิดจากนักเรียนโดยภาพรวมมีปัญหาในระดับมาก ได้แก่ นักเรียนขาดความสนใจในการเรียน และความต้องการของครูผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือครูต้องการพัฒนานวัตกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทันสมัย ต้องการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ในหัวข้อใหม่ๆ อย่างหลากหลาย โดยเน้นให้นักเรียนสามารถนำไปใช้ได้จริง และต้องการสื่อ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมและเพียงพอ ปัญหาในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ได้แก่ ครูขาดสื่อในการสอน ทำให้ไม่น่าสนใจ นักเรียนได้เสนอความต้องการที่จะเรียนวิชาภาษาอังกฤษ อย่างมีความสุข โดยให้ครูจัดหาสื่อการสอนที่เน้นความสามารถด้านการอ่านที่หลากหลาย
2. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.26/87.29 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 75/75
3. ผลการศึกษาความสามารถในการอ่านก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สรุปได้ว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่าหลังเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ประกอบแบบฝึกทักษะ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด