|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นายลิขิต ถานัน
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนที่ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองตาแต้ม(ราชประชานุกูล) อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 รวม 36 คน ซึ่งได้มาโดยแบบเจาะจง ที่ผู้วิจัยเป็นครูผู้สอน ใช้ระยะในการทดลอง 20 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 76.64/76.25 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ มาตรฐาน 75/75 ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์เปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน ซึ่งคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การคูณ ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.52 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.39 โดยภาพรวมนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย ตรี : [7 ส.ค. 2562 เวลา 10:42 น.] อ่าน [4204] ไอพี : 125.24.34.14
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 32,491 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,451 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,090 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,246 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,323 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,766 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,304 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,387 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,981 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,734 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,739 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,226 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,403 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,060 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,341 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 97,132 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,883 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,014 ครั้ง
| เปิดอ่าน 56,054 ครั้ง
| เปิดอ่าน 38,952 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|