ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ชื่อผู้วิจัย นางสาวณัชปภา โลหะกิจ

ปีการศึกษา 2561

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง)

สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษพฤติกรรมและความสามารถด้านทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียน และความคิดเห็นต่อการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 2) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา และ 4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา โดยใช้วิธีดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล/แหล่งข้อมูลมีดังนี้ 1) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล/แหล่งข้อมูลในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 รวมจำนวน 217 คน 2) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล/แหล่งข้อมูลในพัฒนารูปแบบ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) จำนวน 2 ห้องเรียน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน รวมจำนวน 37 คน 3) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล/แหล่งข้อมูลในการทดลองใช้รูปแบบ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 32 คน และ 4) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล/แหล่งข้อมูลในการประเมินผลรูปแบบ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมิน และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษพฤติกรรมและความสามารถด้านทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียน และความคิดเห็นต่อการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร พบว่า นักเรียนมีพื้นฐานด้านการอ่านค่อนข้างต่ำ ไม่มีพื้นฐานการสะกดคำหรือสะกดคำผิด การจัดเรียงประโยคผิด เขียนคำในตำแหน่งผิด และนักเรียนส่วนใหญ่มีพื้นฐานความรู้ด้านภาษาอังกฤษแตกต่างกันและการได้รับการสนับสนุนส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและความเอาใจใสจากผู้ปกครองแตกต่างกัน จึงทำให้นักเรียนส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนที่เก่งภาษาอังกฤษ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ ได้ดี ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งเรียนไม่ทันเพื่อน เรียนอ่อนไม่เข้าใจในบทเรียน ไม่กล้าแสดงออก และไม่กล้าสื่อสารภาษาอังกฤษ และรู้สึกอาย กลัวเพื่อนล้อเมื่อพูดภาษาอังกฤษ มีความคิดว่าตนเองไม่สามารถอ่านไม่ได้ พูดไม่ได้ เมื่อครูถาม จึงไม่กล้าตอบหรือกล้าพูด แต่ชอบเรียนผ่านเกม ผ่านเพลง และผ่านกิจกรรมมากกว่า สิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ คือ การจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และความรอบรู้ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควรสอดคล้องกับสภาพสิ่งแวดล้อม บริบท และความเป็นจริง และควรจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งกิจกรรมการฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน และควรเป็นกิจกรมที่ฝึกให้นักเรียนแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ จะนำไปสู่การใช้ภาษาที่ถูกต้อง คล่องแคล่ว และใช้ได้จริง ความคิดเห็นของนักเรียน คือ นักเรียนคิดว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญและจำเป็น จึงมีความต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยมีข้อเสนอแนะ คือ มีความต้องการเรียนภาษาอังกฤษและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อยากพัฒนาทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน ให้สามารถพูดกับชาวต่างชาติได้ อยากให้ครูสอนภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้การเรียนการสอนสนุกมากยิ่งขึ้น และอยากให้พัฒนาภาษาอังกฤษในเรื่องของคำศัพท์ เพราะเป็นพื้นฐานในการเรียนระดับที่สูงต่อไป ด้านความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน พบว่า การที่ลูกได้เรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ดี จึงมีความต้องการให้ลูกได้พัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยมีข้อเสนอแนะ คือ อยากให้ลูกพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถอ่านออกและเขียนได้ ท่องคำศัพท์และสนทนาเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน และอยากให้ครูพัฒนานักเรียนทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน รวมทั้งการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เพิ่มการอ่านและการสนทนาให้มากขึ้น

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา มีองค์ประกอบของรูปแบบ 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ คือ ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารอย่างเป็นระบบสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษของสภาพยุโรป (CEFR) 2018 2) จุดประสงค์ คือ ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วในสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ 3) กระบวนการจัดการเรียนการสอน 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย 3.1) ขั้นเตรียมความพร้อม (Inputs) ได้แก่ การเตรียมผู้สอน ผู้เรียน แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 3.2) ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (process) ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL 7 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นเข้าสู่บทเรียน (New lead-in) ขั้นการใช้กิจกรรม (Activity for teaching) ขั้นสร้างความรู้ (Teaching method) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Participation) ขั้นจัดเก็บความรู้ (Abstract) ขั้นถ่ายโอนความรู้ (Practice) และขั้นประเมินผลและนำไปใช้ประโยชน์ (Application) 3.3) ขั้นวัดและประเมินผลการเรียนการสอน/ผลลัพธ์ (Output) ได้แก่ ด้านความรู้ (K) คือ ความรู้ด้านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ด้านทักษะกระบวนการ (P) คือ ทักษะและความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ (การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน) และด้านเจตคติ (A) คือ นักเรียนมีพฤติกรรมการเรียน การทำงานกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และเจตคติ/ทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 3.4) ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) คือ ข้อมูลผลประเมิน ข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นของผู้เรียน และครูผู้สอนเกี่ยวข้อง เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 4) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ประกอบด้วย การจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนควรคำนึงถึงพื้นฐานความรู้และความแตกต่างของผู้เรียน และการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ปัจจุบัน ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้ พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 83.33/81.88 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 สอดคล้องกับสมมติฐานที่กำหนดไว้

4. ผลการประเมินผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สอดคล้องกับสมมติฐานที่กำหนดไว้ นักเรียนมีทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (83.86%) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการสื่อสาร (87.70%) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (86.56%) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (87.74%) ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก และมีพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน (75.61%) อยู่ในระดับดี และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ NATPAPA MODEL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย nitha : [6 ส.ค. 2562 เวลา 11:58 น.]
อ่าน [4900] ไอพี : 171.4.236.201
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,472 ครั้ง
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา

เปิดอ่าน 5,942 ครั้ง
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก

เปิดอ่าน 54,396 ครั้ง
การทอดผ้าป่า
การทอดผ้าป่า

เปิดอ่าน 60,349 ครั้ง
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50

เปิดอ่าน 16,168 ครั้ง
ไมโครซอฟท์ประกาศ ยุติโปรแกรม Paint แล้ว หลังอยู่คู่วินโดวส์มา 32ปี!
ไมโครซอฟท์ประกาศ ยุติโปรแกรม Paint แล้ว หลังอยู่คู่วินโดวส์มา 32ปี!

เปิดอ่าน 19,991 ครั้ง
เหรียญกล้าหาญ
เหรียญกล้าหาญ

เปิดอ่าน 573 ครั้ง
5 เทคนิคเลือกใช้บริการขนย้ายของที่ปลอดภัยและคุ้มค่า
5 เทคนิคเลือกใช้บริการขนย้ายของที่ปลอดภัยและคุ้มค่า

เปิดอ่าน 15,412 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 20,270 ครั้ง
บทบาทของการสื่อสารและเครือข่ายฯ
บทบาทของการสื่อสารและเครือข่ายฯ

เปิดอ่าน 11,079 ครั้ง
กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด
กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด

เปิดอ่าน 28,028 ครั้ง
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

เปิดอ่าน 12,730 ครั้ง
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ

เปิดอ่าน 14,155 ครั้ง
10 สรรพคุณ ประโยชน์ของหน่อไม้
10 สรรพคุณ ประโยชน์ของหน่อไม้

เปิดอ่าน 10,052 ครั้ง
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน

เปิดอ่าน 29,016 ครั้ง
วิธีหลอกให้ "กบ" ผสมพันธุ์นอกฤดู ไอเดียคุณครูเรานี่เอง
วิธีหลอกให้ "กบ" ผสมพันธุ์นอกฤดู ไอเดียคุณครูเรานี่เอง

เปิดอ่าน 20,577 ครั้ง
"e-Learning" บทเรียนออนไลน์ กับสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้
"e-Learning" บทเรียนออนไลน์ กับสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้
เปิดอ่าน 2,448 ครั้ง
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เปิดอ่าน 10,207 ครั้ง
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!
เปิดอ่าน 15,222 ครั้ง
ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบ สุริยะ 10 ดวงที่คล้ายโลก
ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบ สุริยะ 10 ดวงที่คล้ายโลก
เปิดอ่าน 17,048 ครั้ง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ