แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ My School เวลา 17 ชั่วโมง
เรื่อง In my school เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด ต 1.1 ป.3/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง และคำขอร้องที่ฟัง หรืออ่าน
ต 1.1 ป.3/2 อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค และบท
พูดเข้าจังหวะ (Chant) ง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 4.1 ป.3/1 ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
2. สาระสำคัญ
การเรียนรู้คำศัพท์นับว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งเราควรเรียนรู้ทั้งการออกเสียง การสะกดคำ ความหมาย เพื่อให้สามารถนำคำศัพท์นั้น ๆ ไปใช้ได้ถูกต้อง
3. สาระการเรียนรู้
การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับโรงเรียน สถานที่ในโรงเรียน การพูดสื่อสารประโยคที่เกี่ยวกับสถานที่ในโรงเรียน
4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 ด้านความรู้
1. อ่าน เขียน และบอกความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับโรงเรียนได้
2. สนทนาถามตอบเกี่ยวกับห้องเรียนได้
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ
1. มีทักษะในการแสวงหาความรู้
2. มีทักษะในการสื่อสาร
3. มีทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
4.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มุ่งมั่นในการทำงาน
2. มีวินัย
3. ใฝ่เรียนรู้
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการคิด
5.2 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.3 ความสามารถในการสื่อสาร
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ POMPHET Model
ขั้นที่ 1 นำเสนอเนื้อหา (Presentation)
1. ครูทักทายนักเรียนในชั้นและให้นักเรียนทักทายตอบครู เสร็จแล้วครูถามทุกข์สุขของนักเรียน ดังนี้
Teacher : Good morning (afternoon), how are you?
Students : Good morning, Im fine, thank you.
2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้แบบฝึกทักษะ เล่มที่ 1 เรื่อง In my school ให้นักเรียนทราบ
3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เล่มที่ 1 เรื่อง In my school ลงในกระดาษคำตอบ (answer sheet) ที่ครูแจกให้ เสร็จแล้วให้นักเรียนนำมาส่งครูเพื่อบันทึกคะแนน
4. จัดนักเรียนเข้ากลุ่ม คละความสามารถ (เก่ง 1 คน, ปานกลาง 2 คน, อ่อน 1 คน) กลุ่มละ 4 คน และให้ตั้งชื่อกลุ่มของตนเอง
5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มดูสถานการณ์ในใบความรู้ที่ 1 ร่วมกับครูผู้สอน
6. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสถานการณ์เพื่อประเมินความสามารถในการสื่อสารของแต่ละคน
ขั้นที่ 2 ฝึกปากเปล่า (Oral)
1. ครูให้นักเรียนอ่านข้อความจากสถานการณ์ที่กำหนดในใบความรู้
2. ครูให้ข้อมูลป้อนกลับว่านักเรียนอ่านข้อความถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งแนะนำวิธีการอ่านที่ถูกต้อง
ขั้นที่ 3 แบบจำลอง (Modeling)
1. ครูเลือกตัวแทนนักเรียนหนึ่งคนเพื่อมาแสดงบทบาทตามสถานการณ์ในใบความรู้ที่ 1 เพื่อถ่ายทอดความรู้และฝึกการใช้ภาษาในการสื่อสารที่ถูกต้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำหนดให้
Teacher : What is that?
Student : It is a library.
Teacher : Where do you study?
Student : I study at Chumchonpomphet School.
Teacher : How many classroom are there in your school?
Student : There are fifteen classrooms in my school.
2. ครูเขียนคำศัพท์ห้องต่าง ๆ บนกระดาน นักเรียนฝึกออกเสียงคำศัพท์พร้อมกัน
3. นักเรียนที่เป็นสมาชิกในแต่ละกลุ่มจับคู่ฝึกสื่อสารเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวจากความรู้ใหม่ที่ครูถ่ายทอดให้แล้ว
ขั้นที่ 4 ฝึกปฏิบัติ (Practice)
1. ครูฝึกนักเรียนอ่านประโยคและค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่นักเรียนยังไม่เข้าใจความหมายจากพจนานุกรมภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งอธิบายความหมายของคำศัพท์ดังกล่าวให้นักเรียน เกิดความเข้าใจ
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาความแตกต่างระหว่างวิธีการสื่อสารจากประสบการณ์เดิมของนักเรียนกับวิธีการสื่อสารที่ครูถ่ายทอดให้ใหม่
3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มคิดห้องสำคัญต่าง ๆ ในโรงเรียนพร้อมทั้งบันทึกแล้วนำเสนอหน้าชั้นเรียนว่ามีห้องอะไรบ้าง
ขั้นที่ 5 เทียบกับสิ่งใกล้ตัว (Here and Now)
1. ครูใช้เขียนคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ใหม่ในโรงเรียนบนกระดานให้นักเรียนตอบคำถามตามลำดับ เช่น
- What is the name of our school?
- How many student are there in our school?
- What is the name of your teacher?
- How many teacher are there in our school?
2. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่ม นำความรู้ที่ได้รับและทักษะปฏิบัติมาใช้ในการตอบคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ใหม่ที่กำหนดให้
ขั้นที่ 6 ประเมินผล (Evaluation)
1. ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคำตอบเกี่ยวกับสถานการณ์ใหม่ที่ครูกำหนดให้
2. ครูให้นักเรียนทำ Exercise 1.1 ในแบบฝึกทักษะ โดยครูคอยให้คำแนะนำ หากนักเรียนมีข้อสงสัยและร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นที่ 7 ทดสอบ (Testing)
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารจากสถานการณ์ที่เรียนรู้
2. ให้นักเรียนเดินสำรวจชี้ห้องต่าง ๆ และออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษ โดยครูสังเกตและคอยกระตุ้นให้นักเรียนคิดและแนะนำเพิ่มเติม
3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เล่มที่ 1 เรื่อง In my school ลงในกระดาษคำตอบ (answer sheet) ที่ครูแจกให้ เสร็จแล้วให้นักเรียนนำมาส่งครูเพื่อบันทึกคะแนน
7. สื่อการเรียนรู้
1. สถานที่ต่าง ๆ ในโรงเรียน เช่น ห้องเรียน ห้องสมุด โรงอาหาร
2. แบบฝึกทักษะ เล่มที่ 1 เรื่อง In my school
8. การวัดผลประเมินผล
8.1 วิธีวัดผลประเมินผล
8.1.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียนแบบฝึกทักษะ เล่มที่ 1 เรื่อง In my school
8.1.2 ประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ
8.1.3 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
8.1.4 ประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
8.2 เครื่องมือวัดผลประเมินผล
8.2.1 แบบทดสอบก่อนเรียนแบบฝึกทักษะ เล่มที่ 1 เรื่อง In my school
8.2.2 แบบประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ
8.2.3 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
8.2.4 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
8.3 เกณฑ์การวัดผลประเมินผล
8.3.1 แบบทดสอบก่อนเรียนแบบฝึกทักษะ เล่มที่ 1 เรื่อง In my school
ใช้เกณฑ์ผ่านการประเมิน ร้อยละ 80
8.3.2 ประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ แบ่งเกณฑ์การประเมินเป็น 4 ระดับ ดังนี้
คะแนน 1 3 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับควรปรับปรุง (1)
คะแนน 4 6 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับพอใช้ (2)
คะแนน 7 9 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดี (3)
คะแนน 10 12 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก (4)
ใช้เกณฑ์ผ่านการประเมิน ร้อยละ 80
8.3.3 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบ่งเกณฑ์การประเมินเป็น 4 ระดับ ดังนี้
คะแนน 1 3 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับควรปรับปรุง (1)
คะแนน 4 6 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับพอใช้ (2)
คะแนน 7 9 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดี (3)
คะแนน 10 12 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก (4)
ใช้เกณฑ์ผ่านการประเมิน ร้อยละ 80
8.3.4 ประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน แบ่งเกณฑ์การประเมินเป็น 4 ระดับ ดังนี้
คะแนน 1 3 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับควรปรับปรุง (1)
คะแนน 4 6 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับพอใช้ (2)
คะแนน 7 9 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดี (3)
คะแนน 10 12 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก (4)
ใช้เกณฑ์ผ่านการประเมิน ร้อยละ 80
 
9. บันทึกหลังการสอน
1. ผลการจัดการเรียนการสอน
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
2. ปัญหา/อุปสรรค
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
ลงชื่อ ครูผู้สอน
( )
10. ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
ลงชื่อ ผู้บริหารสถานศึกษา
( )
 
เกณฑ์การประเมิน
นักเรียนได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 คือได้คะแนนตั้งแต่ 8 คะแนน ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ประเมิน
สรุปผลการประเมิน
ผลการประเมินแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวนคน ร้อยละ
ผ่านเกณฑ์
ไม่ผ่านเกณฑ์
จำนวนนักเรียนทั้งหมด 24 คน
ลงชื่อ ครูผู้สอน
( )
 
แบบบันทึกคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน
แบบฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
โดยใช้ POMPHET Model เรื่อง My school เล่มที่ 1 เรื่อง In my school
ที่ คะแนน (10) ผ่าน ไม่ผ่าน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
รวม
เฉลี่ย
 
แบบบันทึกคะแนนทักษะ/กระบวนการการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
ที่ มีทักษะใน
การแสวงหาความรู้ มีทักษะในการสื่อสาร มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รวมคะแนน ระดับคุณภาพ
4 4 4 12
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
รวม
เฉลี่ย
 
เกณฑ์การประเมินระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้
คะแนน 1 3 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับควรปรับปรุง (1)
คะแนน 4 6 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับพอใช้ (2)
คะแนน 7 9 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดี (3)
คะแนน 10 12 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก (4)
สรุปผลการประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
นักเรียนทั้งหมด จำนวน 24 คน
ระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ จำนวน (คน) ร้อยละ
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
ลงชื่อ ครูผู้สอน
( )
 
เกณฑ์การให้คะแนนทักษะ/กระบวนการการเรียนรู้
รายการประเมิน คำอธิบายคุณภาพ
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ควรปรับปรุง)
มีทักษะ
ในการแสวงหาความรู้ ระบุแหล่งที่มา
ของข้อมูลและเขียนขั้นตอนการ ค้นหาคำตอบได้ ถูกต้อง ครบถ้วน และสอดคล้องกับคำถาม
ที่เลือก
ระบุแหล่งที่มา
ของข้อมูลและเขียนขั้นตอนการ ค้นหาคำตอบได้ ถูกต้อง ครบถ้วน ระบุแหล่งที่มา
ของข้อมูลและเขียนขั้นตอน การค้นหา คำตอบได้ถูกต้อง เขียนขั้นตอน
การค้นหาคำตอบ
ไม่ถูกต้อง ระบุแหล่งที่มา
ของข้อมูลและเขียนขั้นตอนการค้นหา คำตอบไม่ถูกต้อง
มีทักษะใน
การสื่อสาร ความสามารถในการ
รับและถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาและวิธีการอย่างเหมาะสม
มีความสามารถในการ
รับและถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง มีความสามารถในการ
รับความรู้ ความคิด ความเข้าใจแต่ไม่สามารถและถ่ายทอดได้ ไม่สามารถรับและถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจได้
มีทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีแนวคิด/วิธีการแปลกใหม่ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ มีแนวคิด/วิธีการแปลกใหม่ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ถูกต้องแต่นำไปปฏิบัติแล้วไม่ถูกต้องสมบูรณ์
มีแนวคิด/วิธีการไม่แปลกใหม่แต่นำไปปฏิบัติแล้วถูกต้องสมบูรณ์ มีแนวคิด/วิธีการไม่แปลกใหม่และนำไปปฏิบัติแล้วไม่ถูกต้องสมบูรณ์
 
แบบบันทึกคะแนนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
ที่ มุ่งมั่น
ในการทำงาน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รวมคะแนน ระดับคุณภาพ
4 4 4 12
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
รวม
เฉลี่ย
 
เกณฑ์การประเมินระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้
คะแนน 1 3 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับควรปรับปรุง (1)
คะแนน 4 6 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับพอใช้ (2)
คะแนน 7 9 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดี (3)
คะแนน 10 12 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก (4)
สรุปผลการประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
นักเรียนทั้งหมด จำนวน 24 คน
ระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ จำนวน (คน) ร้อยละ
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
ลงชื่อ ครูผู้สอน
( )
 
เกณฑ์การให้คะแนนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
รายการประเมิน คำอธิบายคุณภาพ
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ควรปรับปรุง)
มุ่งมั่นใน
การทำงาน 1. ผลงานสำเร็จถูกต้อง
2. ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลา
3. รับผิดชอบในงาน ที่ได้รับมอบหมายและแนะนำชักชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม
1. ผลงานสำเร็จ
มีความถูกต้อง
เป็นส่วนมาก
2. ส่งงานตรงกำหนด เวลา
3. รับผิดชอบในงาน
ที่ได้รับมอบหมายปฏิบัติเองจนเป็นนิสัย 1. ผลงานสำเร็จ
มีความถูกต้อง
เป็นส่วนน้อย
2. ส่งงานช้ากว่ากำหนดเป็นประจำ
3. ปฏิบัติงานโดยต้องอาศัยการชี้แนะ แนะนำ ตักเตือน
ให้กำลังใจ 1. ปฏิบัติงาน
ไม่สำเร็จ
2. ไม่ส่งงานตามกำหนดเป็นประจำ
3. ไม่ปฏิบัติงานในหน้าที่ของตนเอง โดยต้องตักเตือน เป็นประจำ
มีวินัย 1. ปฏิบัติตน
ตามข้อตกลง
อย่างสม่ำเสมอ
2. ปฏิบัติงานครบ
ทุกขั้นตอน
3. ผลงานมีความเรียบร้อยเป็น
อย่างดี
1. ปฏิบัติตนตามข้อตกลงเป็นบางครั้ง
2. ปฏิบัติงานครบ
ทุกขั้นตอน
3. ผลงานมีความเรียบร้อย 1. ส่วนมากไม่ปฏิบัติตนตามข้อตกลง
2. ปฏิบัติงานไม่ครบทุกขั้นตอน
3. ผลงานไม่มีความเรียบร้อย 1. ไม่ปฏิบัติตน
ตามข้อตกลง
2. ปฏิบัติงานไม่ครบทุกขั้นตอน
3. ผลงานไม่มีความเรียบร้อย
¬¬ใฝ่เรียนรู้ 1. มีความสนใจตั้งใจ และเตรียมตัว
ในการเรียน
เป็นอย่างดี
2. ร่วมเสนอความคิดเห็นเป็นอย่างดี 1. มีความสนใจบ้างเป็นส่วนน้อยที่ไม่สนใจและเตรียมตัวในการเรียนดี
2. ร่วมเสนอความคิดเห็นเป็นบางครั้ง 1. มีความสนใจบ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่สนใจและไม่ได้มีการเตรียมตัวในการเรียน
2. ร่วมเสนอความคิดเห็นน้อยครั้ง 1. ไม่สนใจ และไม่ได้มีการเตรียมตัว
ในการเรียน
2. ไม่ร่วมเสนอความคิดเห็นในการเรียน
แบบบันทึกคะแนนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
ที่ ความสามารถ
ในการคิด ความสามารถ
ในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถ
ในการสื่อสาร รวมคะแนน ระดับคุณภาพ
4 4 4 12
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
รวม
เฉลี่ย
 
เกณฑ์การประเมินระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้
คะแนน 1 3 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับควรปรับปรุง (1)
คะแนน 4 6 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับพอใช้ (2)
คะแนน 7 9 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดี (3)
คะแนน 10 12 หมายถึง มีพฤติกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก (4)
สรุปผลการประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
นักเรียนทั้งหมด จำนวน 24 คน
ระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ จำนวน (คน) ร้อยละ
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
ลงชื่อ ครูผู้สอน
( )
 
เกณฑ์การให้คะแนนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
รายการประเมิน คำอธิบายคุณภาพ
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ควรปรับปรุง)
ความสามารถ
ในการคิด ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ และความคิดรวบยอดของข้อมูลต่างๆ
ที่พบเห็นในชีวิต ประจำวันได้ถูกต้องและ ครบถ้วน ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ และความคิดรวบยอดของข้อมูลต่างๆ
ที่พบเห็นใน ชีวิตประจำวันได้ถูกต้อง แต่ไม่ครบถ้วน ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ และความคิดรวบยอดของข้อมูลต่างๆ
ที่พบเห็นในชีวิต ประจำวันได้ถูกต้องเป็น บางส่วนและไม่ครบถ้วน
ระบุรายละเอียด คุณลักษณะ และความคิดรวบยอดของข้อมูลต่างๆ
ที่พบเห็นในชีวิต ประจำวันไม่ได้
ความสามารถ
ในการใช้เทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีในการประมวล ผลจนเกิดชิ้นงาน/ภาระงาน
ที่สามารถแก้ปัญหาหรือความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีในการประมวล ผลจนเกิดชิ้นงาน/ภาระงาน
ที่สามารถแก้ปัญหาหรือความต้องการได้ ใช้เทคโนโลยีในการประมวลผล จนเกิดชิ้นงาน/ภาระงาน แต่ไม่ สามารถแก้ปัญหาหรือ
ความ ต้องการได้
ไม่สามารถใช้เทคโนโลยี
เพื่อประเมินผล
และสรุปผล
การดำเนินงาน
¬¬ความสามารถ
ในการสื่อสาร พูดถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกและทัศนะ จาก สารที่อ่าน ฟัง หรือดูตามที่กำหนดได้อย่างสมเหตุ
สมผล ชัดเจนและและมั่นใจ
พูดถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกและทัศนะ จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดู ตามที่กำหนด
ได้อย่างมีเหตุผล พูดถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก และทัศนะ จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดู ตามที่กำหนด โดยมีเหตุผลไม่เพียงพอ พูดถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกและทัศนะจากสาร ที่อ่าน ฟัง หรือดู ตามที่ กำหนดให้ไม่ได้
แบบฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้ POMPHET Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง My School
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
โดยใช้ POMPHET Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้วิจัย : ธนภรณ์ จินดา
หน่วยงาน : โรงเรียนชุมชนป้อมเพชร สังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปีที่ทำการวิจัย : ปี 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้ POMPHET Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ POMPHET Model กับนักเรียนที่เรียนโดยใช้วิธีสอนปกติ และ 3) เพื่อเปรียบเทียบเจตคติก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลอง ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้ POMPHET Model ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนชุมชนป้อมเพชร สังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบทดสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ 2) แบบมาตราส่วนประเมินค่าวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ 3) คู่มือการใช้รูปแบบการสอน 4) แบบฝึกทักษะ 5) แบบวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้ POMPHET Model วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ได้รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้ POMPHET Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ สาระ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผลและประเมินผล ซึ่งกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มี 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 นำเสนอเนื้อหา (Presentation) ขั้นที่ 2 ฝึกปากเปล่า (Oral) ขั้นที่ 3 แบบจำลอง (Modeling) ขั้นที่ 4 ฝึกปฏิบัติ (Practice) ขั้นที่ 5 เทียบกับสิ่งใกล้ตัว (Here and Now) ขั้นที่ 6 ประเมินผล (Evaluation) และขั้นที่ 7 ทดสอบ (Testing) โดยมีดัชนีการประเมินคุณภาพรูปแบบการสอนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่าน อยู่ในระดับเหมาะสมดีมาก และดัชนีการประเมินคุณภาพรูปแบบการสอนโดยคณะกรรมการนิเทศการสอน จำนวน 3 ท่าน อยู่ในระดับเหมาะสมดีมาก
2. ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษหลังการทดลองของนักเรียน กลุ่มทดลอง ที่เรียนตามรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้ POMPHET Model มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมที่เรียนตามรูปแบบการสอนปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. เจตคติของนักเรียนกลุ่มทดลองที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้ POMPHET Model สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01