ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ “PHET Model”เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

เป็นการวิจัยและพัฒนาทางการศึกษา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบวิเคราะห์รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” แบบประเมินรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการวิจัย

การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สามารถสรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model”

ผลการศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) พบว่า ครูยังคงเน้นการบรรยายเนื้อหาเป็นหลัก ไม่มีรูปแบบ เทคนิค วิธีการสอน และกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่แปลกใหม่ กิจกรรมไม่น่าสนใจ สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้มีการนำมาใช้น้อย สื่อ อุปกรณ์ไม่เพียงพอ เก่าและขาดคุณภาพ ครูขาดการบูรณาการการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน และครูภูมิปัญญา นักเรียนมีความหลากหลายและแตกต่างกัน แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนไม่เพียงพอ นักเรียนไม่ตั้งใจเรียนขาดเรียนบ่อย ขาดความสามารถด้านกระบวนการคิด ไม่กระตือรือร้น ไม่สนใจใฝ่รู้

2. ผลการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)

ผลการศึกษาการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) พบว่า ในการสอนในศตวรรษที่ 21 นั้น การจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายเป็นเครื่องมือที่จะนำพาผู้เรียนไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ต้องให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล เน้นการฝึกทักษะกระบวนการคิดและการจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา และให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) ร่วมกับ วิธีการสอนแบบทีม ต่างก็เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ยึดปรัชญาการสร้างความรู้ด้วยตนเองผ่านวิธีการจัดการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) โดยประเมินการใช้ข้อมูลร่วมกันการค้นหา และนิยามปัญหา การได้มาซึ่งความรู้ และการแก้ปัญหาโดยใช้การประเมินตามสภาพจริง สร้างเกณฑ์การประเมินเพื่อประเมิน การอภิปรายเชื่อมโยงแนวคิดของผู้เรียนที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนผ่านการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปของบทเรียน เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ครูผู้สอนสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นได้ในที่สุด

3. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model”

3.1 ผลการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นถึงความต้องการ และความสนใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ให้มากที่สุด เน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตัวเองจากการลงมือปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง สืบค้นหาความรู้ได้ตนเอง เพื่อให้เกิดทักษะที่จะนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และสามารถเข้าใจวิธีการเรียนรู้ของตนได้

การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) และวิธีการสอนแบบทีมเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่มีความคล้ายคลึงกัน สามารถตอบสนองต่อบริบทของสภาพและปัญหาการจัด การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) และสามารถสนองความต้องการในการเรียนรู้ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” ประกอบด้วยขั้นตอนที่ 1 กำหนดเป้าหมายและวางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน ขั้นตอนที่ 2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้และตัดสินใจร่วมกัน ขั้นตอนที่ 3 การประยุกต์ใช้ความรู้ โดยนำความรู้ที่ได้ไปจัดทำชิ้นงาน และขั้นตอนที่ 4 ประเมินผลงานร่วมกัน โดยการจัดปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ในการเรียนให้มีความพร้อม และพอเพียงในการจัด การเรียนรู้ จัดหาสื่อ และเทคโนโลยีสนับสนุนการจัด การเรียนการสอนให้เพียงพอ จัดหาแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกโรงเรียนสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน พัฒนาความพร้อมของครูในการจัด การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” รวมถึงสร้างเจตคติของครูที่มีต่อผู้เรียนว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้ พัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด

3.2 ผลการตรวจสอบรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 และ 4.64 ตามลำดับ และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” พบว่า มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.57/84.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้

4. ผลการใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model”

ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

5. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model”

ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ“PHET Model” ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.86 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.618

โพสต์โดย พิม : [5 ส.ค. 2562 เวลา 20:43 น.]
อ่าน [4855] ไอพี : 171.4.248.192
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 41,917 ครั้ง
แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)
แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)

เปิดอ่าน 38,275 ครั้ง
การทำระบบน้ำสำหรับการเกษตร และวิธีการติดตั้งที่ดี
การทำระบบน้ำสำหรับการเกษตร และวิธีการติดตั้งที่ดี

เปิดอ่าน 22,384 ครั้ง
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์

เปิดอ่าน 28,401 ครั้ง
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก

เปิดอ่าน 11,387 ครั้ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี หนังสือที่ควรมีไว้ประจำบ้าน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี หนังสือที่ควรมีไว้ประจำบ้าน

เปิดอ่าน 28,503 ครั้ง
Photosynth สังเคราะห์ภาพ3 มิติ
Photosynth สังเคราะห์ภาพ3 มิติ

เปิดอ่าน 208,453 ครั้ง
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี

เปิดอ่าน 11,189 ครั้ง
ชี้เป็นเด็กอัจฉริยะต้องมี 6Q
ชี้เป็นเด็กอัจฉริยะต้องมี 6Q

เปิดอ่าน 100,721 ครั้ง
ประเภทของระบบสารสนเทศ
ประเภทของระบบสารสนเทศ

เปิดอ่าน 45,536 ครั้ง
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 20,185 ครั้ง
เหรียญปราบฮ่อ
เหรียญปราบฮ่อ

เปิดอ่าน 7,945 ครั้ง
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน

เปิดอ่าน 7,378 ครั้ง
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน

เปิดอ่าน 17,531 ครั้ง
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่

เปิดอ่าน 11,889 ครั้ง
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ

เปิดอ่าน 11,551 ครั้ง
ปลุกเด็กเขียนจดหมาย ลดใช้ facebook
ปลุกเด็กเขียนจดหมาย ลดใช้ facebook
เปิดอ่าน 25,512 ครั้ง
แบบธรรมเนียม ประเพณีไทย
แบบธรรมเนียม ประเพณีไทย
เปิดอ่าน 55,600 ครั้ง
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
เปิดอ่าน 13,103 ครั้ง
12 เคล็ดลับที่ช่วยให้หนุ่ม ๆ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
12 เคล็ดลับที่ช่วยให้หนุ่ม ๆ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
เปิดอ่าน 17,489 ครั้ง
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ