|
|
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนา และศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับ แบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อวัดทักษะการเป่าเมโลเดียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL)ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาลศรีบุณยานุสสรณ์ เทศบาลเมืองกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 39 คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับสลากห้องเรียน โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน(Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะการเป่าเมโลเดียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า PLLTE Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 เตรียมความพร้อม (Preparation:P) ขั้นที่ 2 การฟังและชมการสาธิต (Listen and Demonstate:L) ขั้นที่ 3 การฝึกทักษะย่อย (Learn Practice sub skills:L) ขั้นที่ 4 การฝึกเป็นกลุ่มฝึกซ้อมอย่างชำนาญ (Team Skills Fully:T) ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผลและบรรเลงอย่างเป็นธรรมชาติ (Evaluate and Apply Expertly:E) รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.19/82.95 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่า เมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ทักษะการเป่าเมโลเดียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับดี
4. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL) ร่วมกับแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะการเป่าเมโลเดียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนได้พัฒนาทักษะการเป่าเมโลเดียน สามารถเป่าได้อย่างไพเราะ ถูกต้องตามจังหวะ มีทักษะในการฟัง มีพื้นฐานทางดนตรี นักเรียนภูมิใจที่ได้ร่วม วงเมโลเดียนในการบรรเลงร่วมกิจกรรมของโรงเรียน
|
โพสต์โดย SURACHAI : [4 ส.ค. 2562 เวลา 10:28 น.] อ่าน [5362] ไอพี : 125.27.218.164
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 67,829 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,238 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,119 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,688 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,419 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,150 ครั้ง
| เปิดอ่าน 61,019 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,301 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,450 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,390 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,581 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,160 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,393 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,417 ครั้ง
| เปิดอ่าน 43,659 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 97,418 ครั้ง
| เปิดอ่าน 112,438 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,646 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,933 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,802 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|