ชื่องานวิจัย การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโจทย์ปัญหา โดยใช้เทคนิค
KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้วิจัย นางสาวนิตยา วาปีสังข์
ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 โสกคูณ สังกัดเทศบาลตำบลห้วยเกิ้ง อำเภอกุมภวาปี
จังหวัดอุดรธานี
ปีที่ทำการวิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เรื่องโจทย์ปัญหา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้เทคนิค K-W-D-L 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L เทียบกับเกณฑ์เป้าหมายของโรงเรียนที่กำหนดไว้ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และมีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด 2) เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโจทย์ปัญหา โดยใช้เทคนิค K-W-D-L กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 โสกคูณ สังกัดเทศบาลตำบลห้วยเกิ้ง อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 22 คน โดยวิธีเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ 4) แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เรื่องโจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 77.32/78.64 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่เรียนโดยเทคนิค K-W-D-L มีนักเรียนจำนวน 22 คน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม คิดเป็นร้อยละ 100 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
3. ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L หลังเรียน เมื่อเทียบกับเกณฑ์คะแนนที่ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเทคนิคนิค K-W-D-L พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด