ชื่อเรื่อง ผลของการพัฒนาแบบฝึกปฏิบัติโดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ต่อทักษะปฏิบัติงาน ผลงานความคิดสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน วิชา คอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้วิจัย นางสาวณัฐรีย์ พุกพบสุข
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานการสร้างแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนาแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้แบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมองของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ประกอบด้วยเพื่อ 3.1) ศึกษาทักษะปฏิบัติงานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง 3.2) ศึกษาผลงานความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง 3.3) ศึกษาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ก่อนและหลังเรียน 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา จำนวน 32 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) แบบสอบถาม/แบบสัมภาษณ์ข้อมูลพื้นฐานและความต้องการของนักเรียนและครู 2) แบบฝึกปฏิบัติ 3) แบบประเมินคุณภาพแบบฝึกปฏิบัติ 4) แผนการจัดการเรียนรู้ 9 แผน 5) แบบประเมินทักษะปฏิบัติงาน 6) แบบประเมินผลงานความคิดสร้างสรรค์ 7) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .82 และ 8) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .74 วิเคราะห์ข้อมูลด้วย , S.D. ร้อยละ ค่า t-test แบบ Dependent samples และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานการสร้างแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในกรณีนักเรียน พบว่า นักเรียนต้องการให้ครูจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักเรียนสามารถใช้งานโปรแกรมสร้างสรรค์ผลงานได้ด้วยตนเอง แบบฝึกปฏิบัติที่สร้างมาให้ใช้ต้องมีภาพประกอบขั้นตอนการใช้งานโปรแกรม และสามารถทำตามขั้นตอนได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ฝึกปฏิบัติโดยมีครูคอยแนะนำเมื่อไม่เข้าใจขั้นตอนหรือวิธีการปฏิบัติ ฝึกปฏิบัติได้ในเวลาเรียนและสามารถนำไปฝึกปฏิบัติทบทวนด้วยตนเองได้นอกเวลาเรียน และในกรณีครูผู้สอน : ครูผู้สอนมีแนวคิดว่าการจัดกิจกรรมควรเน้นการปฏิบัติจริง มีการสาธิตแล้วให้นักเรียนทำตาม ให้นักเรียนปฏิบัติด้วยตนเอง โดยมีครูคอยดูแลช่วยเหลือเมื่อนักเรียนต้องการ มีการระดมความคิดและออกมาสาธิตขั้นตอนการทำของเพื่อนในชั้นเรียนที่สร้างชิ้นงานได้สวย น่าสนใจ เพื่อนำมาใช้เป็นตัวอย่างในการสร้างชิ้นงานแบบสร้างสรรค์ด้วยตนเอง การวัดและประเมินผลที่ทั้งครูและนักเรียนมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน กล่าวคือ ให้ทดสอบเป็นรายบุคคล มีทั้งการทดสอบทักษะปฏิบัติ ผลงานความคิดสร้างสรรค์ และทดสอบแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก ซึ่งเป็นการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง และให้มีเครื่องมือวัดและเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน
2. แบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.96/80.89 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
3. การทดลองใช้แบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า
3.1 ทักษะปฏิบัติงานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมองมีคะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.20
3.2 ผลงานความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันเสริมผสานเทคนิคระดมสมองมีคะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.83
3.3 ผลการศึกษาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน ( ) เท่ากับ 18.00 คิดเป็นร้อยละ 60.00 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน ( ) เท่ากับ 25.94 คิดเป็นร้อยละ 86.46 ซึ่งหลังเรียนไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 80 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อแบบฝึกปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันผสานเทคนิคระดมสมอง โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด