ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเทศบาล 7 บ้านหนองตะมะพันทาโนนกอง (ธนาคารกรุงเทพ 2)
ผู้วิจัย นางสาวศรีสุดา พันธสีมา
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้
แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) โดยใช้กลุ่มทดลอง
กลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มเป้าหมาย
ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 7 บ้านหนองตะมะพันทาโนนกอง (ธนาคารกรุงเทพ 2) สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองศรีสะเกษ จำนวน 21 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 เล่ม
2) คู่มือการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) แบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
จำนวน 12 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยทำการวิเคราะห์โดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ86.89/85.24 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละการพัฒนา 66.25
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบไตรสิกขา เรื่อง พระพุทธศาสนา และพุทธประวัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
มีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, = 0.55)