ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่ีอความ ของโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม โดยการบริหารโครงการพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ ของโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม

โดยการบริหารโครงการพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ

ผู้ศึกษา นายสำเร็จ ไกรพันธ์

บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาการดำเนินกิจกรรมการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ ของนักเรียนโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม 2. ประเมินโครงการพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ ทั้งด้านบริบท ปัจจัย กระบวนการดำเนินการและความก้าวหน้าการดำเนินการ และผลผลิต 3. พัฒนาพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม 4. พัฒนาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม 5. ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และทักษะกระบวนการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ของนักเรียนโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม และ 6. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครองที่มีต่อโครงการพัฒนาทักษะกระบวนการ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ของนักเรียนโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ประชากรที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ได้แก่ คณะครูผู้สอนโรงเรียนเรียนแม่ริมวิทยาคม ปีการศึกษา 2560-2561 จำนวน 68 คน นักเรียนโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ปีการศึกษา 2560-2561 จำนวน 1,143 คน และ 1,256 คน ชุมชนคือ ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 1,143 และ 1,256 คน ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาครั้งนี้คือ ครูผู้สอนโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ปีการศึกษา 2560- 2561 จำนวน 55 คน โดยสุ่มอย่างง่าย และนักเรียนโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ปีการศึกษา 2560- 2561 จำนวน 350 คน และชุมชนคือผู้ปกครองของนักเรียน ปีการศึกษา 2560-2561 สุ่มเฉพาะเจาะจง เป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 350 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 6 คน คณะกรรมการสมาคมผู้ปกครองและครู จำนวน 6 คน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง จำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบประเมินกิจกรรมในโครงการ แบบประเมินโครงการ ประกอบด้วย แบบสอบถามประเมินด้านบริบท มีค่าความเชื่อมั่น 0.80 แบบสอบถามประเมินปัจจัยนำเข้า มีค่าความเชื่อมั่น 0.98 แบบสอบถามประเมินกระบวนการดำเนินงานและความก้าวหน้าของการดำเนินงาน มีค่าความเชื่อมั่น 0.97 แบบสอบถามประเมินผลผลิต ได้แก่แบบสอบถามพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน มีค่าความเชื่อมั่น 0.85 แบบสอบถามพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.90 แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบบันทึกทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ และการเขียนสื่อความ แบบบันทึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจต่อโครงการของนักเรียน ครู และผู้ปกครองมีค่าความเชื่อมั่น 0.89, 0.92 และ0.85 ตามลำดับ โดยวิเคราะห์หาค่า IOC วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที ( t-test ) ค่าร้อยละ แล้วแปลผลตามเกณฑ์

สรุปผลการศึกษา

1. การดำเนินกิจกรรม การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ ได้ดำเนินการ 14 กิจกรรม ประกอบด้วยผลการดำเนินกิจกรรม 14 กิจกรรม ซึ่งมีผลการประเมินการดำเนินกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 4.14 อยู่ในระดับ มาก และมีการดำเนินการกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกระดับชั้นที่ใช้นวัตกรรมตั้งแต่การทำแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การทำวิจัยในชั้นเรียน

2. การประเมินโครงการพัฒนาพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ มีดังนี้

ผลการประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมโครงการพบว่า ความสอดคล้อง ความต้องการ ความคาดหวัง แสดงความเป็นไปได้ของโครงการ เฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.75

ผลการประเมินด้านปัจจัย มีค่าเฉลี่ยโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.53

ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน และความก้าวหน้าของการดำเนินกิจกรรมในโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดคือ 4.55

ผลการประเมินผลผลิต มีดังนี้ พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูก่อนและหลังปีการศึกษา 2560 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก คือ 4.11และ 4.44 ตามลำดับ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คือ 4.54 มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงขึ้น พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน ก่อนและหลังปีการศึกษา 2560 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก คือ 4.01, 4.23 ตามลำดับ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คือ 4.54 มีแนวโน้ม อยู่ในระดับสูงขึ้น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยระดับ 3 ขึ้นไป ในปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 มีค่าร้อยละ 68.46 และ 72.96 ตามลำดับ ซึ่งมีความต่างของผลสัมฤทธิ์ ร้อยละ 4.78 มีแนวโน้มปีการศึกษา 2561 สูงกว่าปีการศึกษา 2560 ทุกระดับชั้น และผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ การศึกษาของโรงเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ปีการศึกษา 2560 มีค่าเฉลี่ยระดับ 2 (ดี)ขึ้นไป ในปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 มีค่าร้อยละ 91.49, 97.53 ตามลำดับ มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงขึ้น และสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยระดับ 2 (ดี)ขึ้นไป ในปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 มีค่าร้อยละ 92.36, 95.31 ตามลำดับ มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงขึ้น และสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน

3. ความพึงพอใจต่อโครงการของนักเรียน ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก คือ 4.35, 4.46 ตามลำดับ ความพึงพอใจต่อโครงการของครู ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก คือ 4.39, 4.48 ตามลำดับ ความพึงพอใจต่อโครงการของผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก คือ 4.18, 4.30 ตามลำดับ ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา2561 ความพึงพอใจของ นักเรียน ครู และผู้ปกครอง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 สรุปว่านักเรียน ครู และผู้ปกครอง มีความพึงพอใจต่อโครงการพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนสื่อความ ปีการศึกษา 2561 มากกว่าปีการศึกษา 2560

โพสต์โดย สำเร็จ ไกรพันธ์ : [2 ส.ค. 2562 เวลา 12:45 น.]
อ่าน [3326] ไอพี : 106.0.139.83
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,793 ครั้ง
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร

เปิดอ่าน 22,569 ครั้ง
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ

เปิดอ่าน 13,411 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์

เปิดอ่าน 22,125 ครั้ง
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579

เปิดอ่าน 26,088 ครั้ง
แมงมุม
แมงมุม

เปิดอ่าน 8,878 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา ติดอาวุธครูสอนคิด
ปฏิรูปการศึกษา ติดอาวุธครูสอนคิด

เปิดอ่าน 5,878 ครั้ง
ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP. 1
ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP. 1

เปิดอ่าน 74,682 ครั้ง
กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ
กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ

เปิดอ่าน 21,712 ครั้ง
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542

เปิดอ่าน 21,185 ครั้ง
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน

เปิดอ่าน 15,593 ครั้ง
นวดหน้าลดริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอย

เปิดอ่าน 48,480 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 14,935 ครั้ง
อวสาน ส้วมนั่งยอง! ครม.ประกาศ ปี 59 ทุกครัวเรือนต้องใช้ส้วมชักโครก 90% รับสังคมผู้สูงวัย
อวสาน ส้วมนั่งยอง! ครม.ประกาศ ปี 59 ทุกครัวเรือนต้องใช้ส้วมชักโครก 90% รับสังคมผู้สูงวัย

เปิดอ่าน 10,594 ครั้ง
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า

เปิดอ่าน 29,605 ครั้ง
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?

เปิดอ่าน 24,519 ครั้ง
เป็ดบาบารี่
เป็ดบาบารี่
เปิดอ่าน 5,242 ครั้ง
ยางอินเดีย ต้นไม้ปลูกในร่ม ดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศ
ยางอินเดีย ต้นไม้ปลูกในร่ม ดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศ
เปิดอ่าน 1,587 ครั้ง
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
เปิดอ่าน 12,626 ครั้ง
สังเคราะห์ยาเสพติดรูปแบบใหม่ขึ้นอีก แรงกว่ากัญชา 5 เท่า
สังเคราะห์ยาเสพติดรูปแบบใหม่ขึ้นอีก แรงกว่ากัญชา 5 เท่า
เปิดอ่าน 32,179 ครั้ง
สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"
สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ