ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

เผยแพร่ผลงานวิชาการ

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และ

ทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model)

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางเบญจวรรณ ยิ้มเย็น

ปีการศึกษา 2561

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดย 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง

การเรียนของนักเรียนนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2.2) เปรียบเทียบทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2.3) ศึกษาพัฒนาการของทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดชนาธิปเฉลิม) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสตูล กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Sample Random Sampling) โดยวิธีการจับฉลากโดยใช้ห้องเรียนในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้

แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติใช้ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าทดสอบที (t-test) การวิจัยนี้เป็นการวิจัยประเภทผสมผสานวิธี ผลการวิจัยได้ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ดังนี้

1. รูปแบบที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์ หลักการ กระบวนการ เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบความสำเร็จ และการวัดประเมินผล เรียกว่า BENJAWAN Model มีการดำเนินการ 8 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 เริ่มต้น (B: Begin) ขั้นที่ 2 กระตุ้น (E: Energize) ขั้นที่ 3 ความรู้ใหม่ (N: New knowledge) ขั้นที่ 4 ร่วมกัน (J: Join) ขั้นที่ 5 ปฏิบัติ

(A: Act) ขั้นที่ 6 เชื่อมความรู้ (W: Weld knowledge) ขั้นที่ 7 สรุป (A: Abstract) ขั้นที่ 8 แลกเปลี่ยน (N: Negotiate) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.17/84.58 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2.2 ทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2.3 ทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างเรียนมีการพัฒนาขึ้น

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (BENJAWAN Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅= 4.68, S.D. = 0.26)

โพสต์โดย วรรณ : [31 ก.ค. 2562 เวลา 10:24 น.]
อ่าน [6819] ไอพี : 180.180.175.80
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 47,130 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น

เปิดอ่าน 22,561 ครั้ง
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)

เปิดอ่าน 7,845 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7

เปิดอ่าน 55,891 ครั้ง
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 10,308 ครั้ง
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21

เปิดอ่าน 13,554 ครั้ง
วิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริง
วิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริง

เปิดอ่าน 25,564 ครั้ง
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ

เปิดอ่าน 8,088 ครั้ง
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา

เปิดอ่าน 30,617 ครั้ง
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 14,555 ครั้ง
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ

เปิดอ่าน 11,551 ครั้ง
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล

เปิดอ่าน 14,601 ครั้ง
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 240,579 ครั้ง
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 14,861 ครั้ง
ชาวเน็ตกดไลค์ คลิปน้องเจนพากย์เสียงเป๊ะเว่อร์มากๆ
ชาวเน็ตกดไลค์ คลิปน้องเจนพากย์เสียงเป๊ะเว่อร์มากๆ

เปิดอ่าน 24,267 ครั้ง
บัญญัติ 6 ประการในการซื้อ"กล้องดิจิตอล"
บัญญัติ 6 ประการในการซื้อ"กล้องดิจิตอล"

เปิดอ่าน 15,964 ครั้ง
ถ้าผมเป็น "รมต.ศึกษา"
ถ้าผมเป็น "รมต.ศึกษา"
เปิดอ่าน 19,728 ครั้ง
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
เปิดอ่าน 11,034 ครั้ง
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย
เปิดอ่าน 30,814 ครั้ง
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ
เปิดอ่าน 35,950 ครั้ง
น่ารักครับ! ลูกใช้หลักอริยสัจ 4 แนะทางออกแก้ปัญหาแม่ติดโทรศัพท์
น่ารักครับ! ลูกใช้หลักอริยสัจ 4 แนะทางออกแก้ปัญหาแม่ติดโทรศัพท์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
แปลงหน่วยวัด
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ