ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการพัฒนาบทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ 2016 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเ

งานวิจัย การวิจัยเรื่องการศึกษาและพัฒนาบทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้

ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ 2016

เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองและส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางประไพวรรณ ละอินทร์

ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องดำเนินการศึกษาและพัฒนาบทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการ

เรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ 2016 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ด้วยตนเองและส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ศึกษาเอกสารงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง ศึกษาปัญหาและความต้องการ ของผู้ปกครอง ครูคอมพิวเตอร์ และบุคลากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ 2) สร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ 2016 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองและส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 3) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากการใช้บทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์ พาวเวอร์พอยต์ 2016 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองและส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อบทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ 2016 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองและส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในจุดประสงค์ ข้อที่ 1 มี 3 ส่วน ดังนี้ 1.สอบถามความคิดเห็นของครูคอมพิวเตอร์ ด้วย Google Form ในห้องสนทนาออนไลน์ 3 ห้อง ได้แก่ 1) กลุ่ม ครูคอม คศ.3 ประกอบไปด้วยครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ ทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา โรงเรียนในสังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 17 คน 2) กลุ่ม คบ.เพชรบุรี 426150/1 ประกอบไปด้วยครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ ทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา โรงเรียนในสังกัด สพฐ. สพม. และอปท. จำนวน 14 คน 3) กลุ่ม Sites ร.ร.เทศบาล ประกอบไปด้วยครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ และบุคลากร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ ทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา โรงเรียนในสังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน 15 คน 2. ผู้ปกครองนักเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง ปีการศึกษา 2560 และ 3. นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล วัดเหมืองแดง ปีการศึกษา 2560 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้จุดประสงค์ข้อที่ 2-4 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง ปีการศึกษา 2560 จำนวน 42 คน ในขั้นทดสอบประสิทธิภาพเดี่ยว กลุ่ม และภาคสนาม และปีการศึกษา 2561 จำนวน 39 คน ในการทดลองใช้จริง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ได้แก่ 1)แบบสอบถามความคิดเห็นของครูคอมพิวเตอร์ ด้วย Google Form ในห้องสนทนาออนไลน์ 3 ห้องผู้ปกครองนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง ปีการศึกษา 2560 และนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง ปีการศึกษา 2560 ในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) บทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ 2016 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองและส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ 2016 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองและส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษา

1. จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามเพื่อการวิจัยสภาพการจัดการเรียนการสอน และความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนแบบการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ของครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ โดยสอบถามความคิดเห็นของครูคอมพิวเตอร์ ด้วย Google Form การสัมภาษณ์ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง ปีการศึกษา 2560 สรุปได้ว่า การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบการเรียนรู้จากบทเรียนเครือข่าย บทเรียนออนไลน์ด้วยการเรียนรู้ด้วยตนเอง และทักษะการคิดสร้างสรรค์ เป็นรูปแบบที่กลุ่มเป้าหมายโดยส่วนใหญ่ที่ทำการจัดการสอนต้องการให้เกิดแก่ผู้เรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ ฝึกทักษะการคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญยิ่งในการพัฒนาให้ผู้เรียนก้าวเข้าสู่การเป็นพลเมืองของโลกในยุคศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุข และมีคุณภาพแนวทางการพัฒนาการคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนผู้วิจัยสามารถสรุปแนวทางการพัฒนา ทักษะการคิดสร้างสรรค์ได้เป็นข้อๆดังนี้

1. กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการคิดสร้างสรรค์ เช่นการให้นักเรียนมีโอกาสศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายทั้งโรงเรียนและนอกโรงเรียน ทั้งในเวลาเรียนและนอก เวลาเรียน

2. ศึกษารูปแบบวิธีการจัดกิจกรรม แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อสร้างให้ผู้เรียน เกิดทักษะการคิดสร้างสรรค์ด้วยตนเอง

3. ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ได้แสดงความคิดเห็น ปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับเพื่อน ผู้เรียนกับผู้ปกครอง และผู้เรียนกับครูผู้สอน

4. จัดบรรยากาศในการเรียนรู้ และวัสดุอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน

2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้บทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรีย กลับด้าน ในการการทดลองกับกลุ่มเป้าหมายมีค่าเท่ากับ 83.22/82.91 ซึ่งแสดงว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้

3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้บทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน มีค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 16.67 คะแนนค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนเท่ากับ 24.87 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.20 คะแนน

4. นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากกับการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้บทเรียนบทเรียนเครือข่ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย Gift : [31 ก.ค. 2562 เวลา 08:21 น.]
อ่าน [5124] ไอพี : 223.24.160.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,953 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์

เปิดอ่าน 13,498 ครั้ง
เปิด4เมนูอาหารชุด นิยมใช้ตักบาตร ทำสงฆ์ป่วยสารพัดโรค
เปิด4เมนูอาหารชุด นิยมใช้ตักบาตร ทำสงฆ์ป่วยสารพัดโรค

เปิดอ่าน 15,201 ครั้ง
หลังออกกำลังกาย กินอะไรให้ร่างกายฟื้นตัวดี
หลังออกกำลังกาย กินอะไรให้ร่างกายฟื้นตัวดี

เปิดอ่าน 37,771 ครั้ง
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน

เปิดอ่าน 12,810 ครั้ง
13 นิสัย (เสีย ๆ) ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา
13 นิสัย (เสีย ๆ) ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา

เปิดอ่าน 23,145 ครั้ง
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร

เปิดอ่าน 14,505 ครั้ง
สายตาเอียง
สายตาเอียง

เปิดอ่าน 132,325 ครั้ง
สุดยอด! หนังสั้น"เดือนเพ็ญ"ผลงานนักเรียนยอดวิวกว่า2แสนวิวแล้ว
สุดยอด! หนังสั้น"เดือนเพ็ญ"ผลงานนักเรียนยอดวิวกว่า2แสนวิวแล้ว

เปิดอ่าน 95,030 ครั้ง
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?

เปิดอ่าน 11,756 ครั้ง
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ

เปิดอ่าน 19,606 ครั้ง
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี

เปิดอ่าน 2,485 ครั้ง
ประโยชน์ของโหระพา
ประโยชน์ของโหระพา

เปิดอ่าน 8,630 ครั้ง
สารอาหารแห่งอนาคต
สารอาหารแห่งอนาคต

เปิดอ่าน 10,279 ครั้ง
สดร.ชี้ข่าวโลกมืดสนิท 6 วันเพราะฝุ่น-ขยะอวกาศบดบังไม่จริง
สดร.ชี้ข่าวโลกมืดสนิท 6 วันเพราะฝุ่น-ขยะอวกาศบดบังไม่จริง

เปิดอ่าน 19,174 ครั้ง
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

เปิดอ่าน 1,488 ครั้ง
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่
เปิดอ่าน 33,121 ครั้ง
ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา
ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา
เปิดอ่าน 27,209 ครั้ง
ต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาส
เปิดอ่าน 13,011 ครั้ง
พ่อกับลูกชาย คลิปซึ้งกินใจ ไว้เตือนใจตนครับ
พ่อกับลูกชาย คลิปซึ้งกินใจ ไว้เตือนใจตนครับ
เปิดอ่าน 15,283 ครั้ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ