บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS
เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕
(บ้านตลาดเก่า)
ชื่อผู้วิจัย นางศิวพร ยืนชนม์
โรงเรียน โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)
ปีที่วิจัย 2561
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) 2) พัฒนารูปแบบ การนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) 3) ทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) 4) ประเมินผลความพึงพอใจของครูที่มีต่อการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสำรวจสภาพปัจจุบันและความต้องการในการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) โดยสอบถามจากครูผู้สอน จำนวน 68 คน ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) โดยตรวจสอบความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความสอดคล้องของรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ร่วมกับอาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ จำนวน 5 ท่าน ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายใน โดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) 1) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ของครูจำนวน 68 คน 2) เปรียบเทียบความก้าวหน้าของนักเรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับดีขึ้นไป (3) ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) (ระหว่างปีการศึกษา 2560 และ ปีการศึกษา 2561) 3) ทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) และ 4) ทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน โดยใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) และระยะที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ประเมินทักษะในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้รับการนิเทศและประเมินความพึงพอใจของครูผู้รับการนิเทศด้วยกระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) โดยผู้วิจัยได้นำแบบประเมินทักษะการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนประเมินผลการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ที่มีค่าความเชื่อมั่น .80 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
สภาพปัจจุบันในการปฏิบัติการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และความต้องการในการปฏิบัติการนิเทศภายในโดยกระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก
รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 M = Motivation (แรงจูงใจ) ขั้นที่ 2 E = Edutainment (การศึกษาบันเทิง) ขั้นที่ 3 A = Attitude (ทัศนคติ) ขั้นที่ 4 T = Training (การอบรม) และขั้นที่ 5 S = Support (การสนับสนุน) ทุกขั้นมีความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด
ผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) พบว่า 1) ประสิทธิผลของการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ร้อยละของนักเรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับดี (3) ขึ้นไป ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) จำแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2561 สูงกว่าปีการศึกษา 2560 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 3) ผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2561 สูงกว่าปีการศึกษา 2560 4) ผลการประเมิน ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) หลังการใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการ ในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) สูงกว่าก่อนการใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) 5) ผลการประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนหลังการดำเนินการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) สูงกว่าก่อนการใช้กระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)
ผลการประเมินทักษะในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูได้รับการนิเทศด้วยกระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) โดยรวมอยู่ในระดับมาก และผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้รับการนิเทศด้วยกระบวนการ MEATS เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) พบว่า โดยรวมมีผล การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด