ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนบ้านโป่งกวาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 3
ผู้ศึกษา นางสาวอรุณรัตน์ บุราณเดช
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านโป่งกวาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 3
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ทั้งนี้เนื่องมาจากครูผู้สอน
มักใช้วิธีการสอนแบบเดิม โดยการถ่ายทอดความรู้จากตำราเรียน อธิบายเนื้อหาสาระ ตั้งคำถามแล้วให้นักเรียนตอบและนักเรียนทำตามตัวอย่าง ไม่ได้มุ่งเน้นให้นักเรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาและนำความรู้ไปใช้แสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง สื่อการเรียนการสอนไม่น่าสนใจ ไม่เหมาะสมกับวัยของนักเรียน ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงมีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การคูณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโป่งกวาง อำเภอ ภูเรือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 3 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 6 คน จาก 1 ห้องเรียน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยการจับสลากมา 1 โรงเรียน ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 6 คน จาก 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี 4 ชนิด ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะและคู่มือครู กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ จำนวน 22 ชุด แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง การคูณ จำนวน 24 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน
30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.53 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.86 แบบวัดความพึงพอใจในการเรียนรู้ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.69 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.76 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานโดยใช้วิธีของวิลคอกซอน (The Wilcoxon Matched Pairs Signed - Rank Test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.58/85.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6897 หรือคิดเป็นร้อยละ 68.97
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ มีความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยรวมเป็นรายด้านทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านเนื้อหาสาระการเรียนรู้ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านสื่อและอุปกรณ์ การเรียนการสอน และด้านการวัดและประเมินผล อยู่ในระดับมากที่สุด และมีความพึงพอใจเป็นรายข้อทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ แบบฝึกเสริมทักษะมีความสวยงาม เหมาะสม น่าสนใจ รองลงมาคือ สื่อ/แบบฝึกมีความยากง่ายพอเหมาะกับวัยผู้เรียน และเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนโดยสรุปผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคุณภาพสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนได้ และกิจกรรมการเรียนรู้ทำให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยนักเรียนที่เก่งช่วยเหลือนักเรียนที่อ่อน เพื่อให้กลุ่มของตนประสบความสำเร็จ สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนมีความรับผิดชอบและร่วมมือกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทำให้นักเรียนมี
เจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ด้วย