ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาป

บทคัดย่อ

คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่สร้างความมีระเบียบแบบแผน มีล าดับขั้นตอนในการคิดและต้องอาศัย การคิดอย่างมีเหตุผล การเรียนคณิตศาสตร์เป็นการฝึกแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งยังฝึกให้ผู้เรียนเป็นคนที่มี เหตุผล เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์นั้นส่วนใหญ่สิ่งที่เรียนก่อนจะเป็นพื้นฐานในการเรียนเรื่องต่อไปหรือใน การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชั้นสูงต่อไป การจัดการเรียนรู้ในรายวิชาคณิตศาสตร์ปกติแล้วผู้เรียนจะ มองว่าเป็นรายวิชาที่ยาก ผู้ศึกษาจึงได้น าเอารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT ประกอบ บทเรียนการ์ตูนมาใช้ในการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กับผู้เรียน การศึกษาในครั้งนี้มี จุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 75/75 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่มสาระการ เรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ และ4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่ม สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ที่ก าลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเมือง สมเด็จ อ าเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ กรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จ านวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา มี 4 ชนิด คือ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบ 4 MAT เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จ านวน 12 แผน 2) บทเรียนการ์ตูน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จ านวน 12 เรื่อง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบ แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 30 ข้อ มีค่าอ านาจจ าแนก(B) ตั้งแต่ 0.29 ถึง 0.71 ,ค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.47 ถึง 0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ ( cc r )เท่ากับ 0.80 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ จ านวน 10 ข้อ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ สมมุติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)

ผลการศึกษาพบว่า 1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียน การ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มี ประสิทธิภาพเท่ากับ 80.12/ 80.44 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ 2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียน การ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีพัฒนาการ ทางการเรียนเพิ่มขึ้น 0.6852 หรือคิดเป็นร้อยละ 68.52 3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี นัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบ 4 MAT ประกอบบทเรียนการ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและ ร้อยละ อยู่ในระดับมากที่สุด (x = 4.80, S.D. = 0.18 ) และประเด็นที่นักเรียนพึงพอใจมากที่สุด คือ บทเรียนการ์ตูนมีการเรียงล าดับจากง่ายไปหายากไม่ท าให้เกิดความสับสน ,เนื้อหามีความเหมาะสมกับ พัฒนาการของนักเรียนและครูจัดการเรียนการสอนได้อย่างเป็นระบบและมีความชัดเจน

โพสต์โดย ครูยา : [25 ก.ค. 2562 เวลา 08:11 น.]
อ่าน [4311] ไอพี : 1.4.181.104
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,424 ครั้ง
บ้าเก่าไม่ทันหาย....บ้าใหม่กำลังมา
บ้าเก่าไม่ทันหาย....บ้าใหม่กำลังมา

เปิดอ่าน 3,462 ครั้ง
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"

เปิดอ่าน 27,291 ครั้ง
หมอชี้ ความเชื่อผิดๆ กินไข่ทุกวัน อันตรายเพราะคอเลสเตอรอล
หมอชี้ ความเชื่อผิดๆ กินไข่ทุกวัน อันตรายเพราะคอเลสเตอรอล

เปิดอ่าน 21,579 ครั้ง
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้

เปิดอ่าน 11,935 ครั้ง
ความลับของกลดึงกระต่ายออกมาจากหมวก
ความลับของกลดึงกระต่ายออกมาจากหมวก

เปิดอ่าน 28,447 ครั้ง
โปรแกรมสำหรับช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา
โปรแกรมสำหรับช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา

เปิดอ่าน 11,889 ครั้ง
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม

เปิดอ่าน 10,257 ครั้ง
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ

เปิดอ่าน 78,022 ครั้ง
จรรยาบรรณของวิชาชีพ 5 ด้าน 9 ข้อ ที่ครูและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องจำขึ้นใจ
จรรยาบรรณของวิชาชีพ 5 ด้าน 9 ข้อ ที่ครูและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องจำขึ้นใจ

เปิดอ่าน 16,431 ครั้ง
คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม
คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม

เปิดอ่าน 19,243 ครั้ง
เกมส์
เกมส์

เปิดอ่าน 14,439 ครั้ง
ครม.ไฟเขียว "กัญชง" ปลูกได้ครัวละไม่เกิน1ไร่ พืชเศรษฐกิจไทยตัวใหม่
ครม.ไฟเขียว "กัญชง" ปลูกได้ครัวละไม่เกิน1ไร่ พืชเศรษฐกิจไทยตัวใหม่

เปิดอ่าน 10,683 ครั้ง
กระหึ่มยูทูบ! เพลงต้นกล้าของพ่อ ร้องโดย นักกีฬาทีมชาติไทย
กระหึ่มยูทูบ! เพลงต้นกล้าของพ่อ ร้องโดย นักกีฬาทีมชาติไทย

เปิดอ่าน 30,366 ครั้ง
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ

เปิดอ่าน 1,000 ครั้ง
ประโยชน์ของการนวดเท้าและขา
ประโยชน์ของการนวดเท้าและขา

เปิดอ่าน 12,621 ครั้ง
ยาตีกันอันตราย
ยาตีกันอันตราย
เปิดอ่าน 33,971 ครั้ง
นิทานเคมี เรื่อง ถ่านหินมหัศจรรย์
นิทานเคมี เรื่อง ถ่านหินมหัศจรรย์
เปิดอ่าน 16,643 ครั้ง
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
เปิดอ่าน 111,949 ครั้ง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
เปิดอ่าน 14,385 ครั้ง
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ