ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง : การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้ศึกษา : นายนรินทร์ มิระสิงห์

ปีที่พิมพ์ : 2562

บทคัดย่อ

การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อทดลองใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เพื่อประเมินผลการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดังนี้ 4.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4.2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4.3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยได้ดำเนินการตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ใช้แบบแผนการวิจัยแบบ One Group Pretest-Posttest Design เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นเนื้อหาสาระใน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 การศึกษา 2561 จำนวน 41 คน โรงเรียนเทศบาล 2 สามัคคีวัฒนา กองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร ซึ่งได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ครูผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนคณิตศาสตร์ แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบที แบบไม่อิสระ (t-test แบบ Dependent Samples) และวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย สรุปผลได้ดังนี้

1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ยึดหลักการและแนวคิดสำคัญคือ มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน (Standard – based Curriculum) มาตรฐานการเรียนรู้เป็นกรอบและแนวทางในการสร้างหลักสูตร ซึ่งในการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์นั้นจะต้องเตรียมความพร้อมของผู้เรียนทั้งในด้านจิตนิสัยและพื้นฐานทางการเรียนเพื่อเชื่อมโยงสู่การเรียนรู้ในเรื่องต่อ ๆ ไป สอดแทรกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เข้ากับการเรียนการสอนด้านเนื้อหาและมโนทัศน์ ด้วยการให้นักเรียนทำกิจกรรม หรือตั้งคำถามที่กระตุ้นให้นักเรียนคิด อธิบายและให้เหตุผล กระตุ้นให้นักเรียนใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลาย ส่วนสภาพที่เป็นจริงของการจัดการศึกษาสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่า ผลสัมฤทธิ์วิชาคณิตศาสตร์ต่ำ ซึ่งพบว่าปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งคือวิธีการสอนหรือวิธีจัดการเรียนรู้ ควรสอนให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ ได้ ทั้งนี้การจัดการเรียนรู้สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีความต้องการจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาความสามารถในการคิดขั้นสูง ผู้เรียนจะต้องรู้วิธีการเรียนรู้ คิดเป็น แก้ปัญหาเป็นอย่างสร้างสรรค์ มีความสามารถในการคิดอย่างมีคุณภาพและมีความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่วนในการเรียนการสอนคณิตศาสตร์นักเรียนมีปัญหาในเรื่องของการแก้โจทย์ปัญหา กล่าวคือ ไม่สามารถตีความ แยกแยะปัญหา วิเคราะห์ปัญหา ไม่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่โจทย์กำหนดให้กับสิ่งที่โจทย์ถาม ขาดทักษะการเชื่อมโยง ทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา อีกทั้งมีปัญหาในเรื่องความละเอียดรอบคอบ สาเหตุสำคัญคือ ธรรมชาติวิชาที่มีความเป็นนามธรรมสูง มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันในเนื้อหา และวิธีการสอนของครูที่ส่วนใหญ่เป็นการสอนแบบบรรยาย ทำให้นักเรียนไม่มีโอกาสไม่มีโอกาสได้ฝึกกระบวนการคิด นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียนในหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งแบบแผนวิธีเรียนรู้ที่แตกต่างกันของนักเรียน ดังนั้นครูควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ทำให้ผู้เรียนเกิดมโนทัศน์เพราะการสร้างและการเรียนรู้มโนทัศน์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างพฤติกรรมด้านการวิเคราะห์และสังเคราะห์ เมื่อผู้เรียนเกิดมโนทัศน์หรือเข้าใจมโนทัศน์แล้วจะสามารถนำไปใช้วิเคราะห์โจทย์ปัญหาได้

2. แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4 ขั้นตอน 7 คำถาม (4 Steps 7 Question : 4S7Q) ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 (Step1 : S1) : การทำความเข้าใจปัญหา มีคำถามสำหรับนำไปสู่การคิดวิเคราะห์ คือ คำถามที่ 1 (Question 1 : Q1) : โจทย์กำหนดอะไรมาให้ คำถามที่ 2 (Question 2 : Q2) : โจทย์ต้องการทราบอะไร คำถามที่ 3 (Question 3 : Q3) : มีข้อมูลที่ยังไม่รู้ที่ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่ ถ้ามีคืออะไร ขั้นตอนที่ 2 (Step 2 : S2) : การแสดงแนวคิดในการแก้ปัญหา มีคำถามสำหรับนำไปสู่การคิดวิเคราะห์ คือ คำถามที่ 4 (Question 4 : Q4) : จะหาคำตอบได้อย่างไร ขั้นตอนที่ 3 (Step 3 : S3) : การดำเนินการแก้ปัญหา มีคำถามสำหรับนำไปสู่การคิดวิเคราะห์ คือ คำถามที่ 5 (Question 5 : Q5) : ประโยคสัญลักษณ์ คืออะไร หรือ แสดงวิธีแก้ปัญหาได้อย่างไร คำถามที่ 6 (Question 6 : Q6) : คำตอบ คืออะไร และขั้นตอนที่ 4 (Step 4 : S4) : การตรวจสอบคำตอบ มีคำถามสำหรับนำไปสู่การคิดวิเคราะห์ คือ คำถามที่ 7 (Question 7 : Q7) : คำตอบที่ได้สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเหตุใด โดยที่ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.92 / 82.93 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

5. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 4S7Q ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.58, S.D. = 0.59)

โพสต์โดย ครูแอร์ : [24 ก.ค. 2562 เวลา 19:18 น.]
อ่าน [4832] ไอพี : 49.230.76.107
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,287 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 10,454 ครั้ง
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)

เปิดอ่าน 22,085 ครั้ง
ราคากลางชุดฝึกทักษะนักเรียนก่อนประถมศึกษา
ราคากลางชุดฝึกทักษะนักเรียนก่อนประถมศึกษา

เปิดอ่าน 32,412 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"

เปิดอ่าน 41,750 ครั้ง
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ

เปิดอ่าน 1,248 ครั้ง
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู

เปิดอ่าน 23,872 ครั้ง
เกร็ดความรู้ "อนุสาวรีย์ชัยฯ"
เกร็ดความรู้ "อนุสาวรีย์ชัยฯ"

เปิดอ่าน 31,775 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ สอนลูกฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกับคำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ สอนลูกฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกับคำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน

เปิดอ่าน 23,056 ครั้ง
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค

เปิดอ่าน 21,704 ครั้ง
PHP Multi Elearning II
PHP Multi Elearning II

เปิดอ่าน 10,315 ครั้ง
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว

เปิดอ่าน 21,694 ครั้ง
จุดที่เย็นที่สุดในโลก
จุดที่เย็นที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 14,026 ครั้ง
โฮย่า ชนิดใหม่ พบขึ้นที่อุ้มผางแห่งเดียวในโลก
โฮย่า ชนิดใหม่ พบขึ้นที่อุ้มผางแห่งเดียวในโลก

เปิดอ่าน 49,613 ครั้ง
ฝึกลูกจำศัพท์อังกฤษ50คำได้ไม่ต้องท่อง หมวดสิ่งของทั่วไป
ฝึกลูกจำศัพท์อังกฤษ50คำได้ไม่ต้องท่อง หมวดสิ่งของทั่วไป

เปิดอ่าน 8,970 ครั้ง
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้

เปิดอ่าน 11,306 ครั้ง
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย
เปิดอ่าน 19,295 ครั้ง
5 ต้นไม้ดูดสารพิษ ช่วยกรองอากาศแบบธรรมชาติ
5 ต้นไม้ดูดสารพิษ ช่วยกรองอากาศแบบธรรมชาติ
เปิดอ่าน 2,126 ครั้ง
เติมความหวานด้วยของขวัญวันวาเลนไทน์ ส่งรักแทนใจให้คนพิเศษ
เติมความหวานด้วยของขวัญวันวาเลนไทน์ ส่งรักแทนใจให้คนพิเศษ
เปิดอ่าน 15,425 ครั้ง
อบเชย
อบเชย
เปิดอ่าน 56,934 ครั้ง
ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย
ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ