ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยงาน โรงเรียนนาหม่อโนนลานประชาสรรค์
ปีการศึกษา 2561
ผู้วิจัย นายชำนาญ ปักโคทะกัง
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 70/70 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะ
การแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนาหม่อโนนลานประชาสรรค์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 13 คน ใช้ระยะเวลาในการวิจัย คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 ชั่วโมง โดยใช้เวลา
ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ระหว่างวันที่ 7 มกราคม 2562 - 22 กุมภาพันธ์ 2562 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย เครื่องมือประเภทนวัตกรรมที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา จำนวน 10 แผน แบบทดสอบ
ก่อนเรียน-หลังเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.30-0.60 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.92 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา และใช้สถิติประกอบการวิเคราะห์ข้อมูล คือ
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 ซึ่งพิจารณาจากค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบระหว่างเรียน ชุดที่ 1-10 กับ คะแนนทดสอบ
หลังเรียน เท่ากับ 78.92 กับ 81.79 ดังนั้น E1/E2 จึงมีค่าเท่ากับ 78.92 /81.79 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 70/70 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7193 คิดเป็นร้อยละ 71.93 แสดงให้เห็นว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 ได้รับการพัฒนาให้มีทักษะด้านการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 71.93
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ นักเรียนสามารถ
ทำความเข้าใจเนื้อหาได้เร็วยิ่งขึ้น นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจที่ดีและสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองทุกเวลา