ชื่อวิจัย รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ตามรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหา
เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา)
ผู้วิจัย นางชนิสรา นิยม
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ตามรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหา เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ตามรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหา เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียน
และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3
(เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ตามรูปแบบกระบวนการ
แก้ปัญหา เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ใช้กลุ่มทดลอง
แบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design)
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา
2560 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมือง
ศรีสะเกษ จำนวน 20 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 14 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้
ตามรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหา ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 2 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 12 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยทำการวิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ตามรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหา เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ
72 พรรษา) มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.24/84.63 ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา)
ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ตามรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหา เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ
การพัฒนา 15.49
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา)
มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ตามรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหา
เรื่อง สนุกกับบทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด
มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.57 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.54