|
|
พรทิพย์ นวลแก้ว 2560: การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัย เป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัยและทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัยและทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัยและทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของผู้เรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3) ขยายผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัยและทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) สำนักการศึกษาเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 42 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัยและทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คู่มือการใช้รูปแบบ หน่วยและแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินทักษะการวิจัย และแบบทดสอบทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที (t-test for dependent samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัย และทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีชื่อว่า " ISCSA Model" มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ การที่ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเองอย่างมีระบบ โดยการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการวิจัย และผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่เน้นการเรียนรู้ แบบนำตนเองร่วมกับการร่วมมือกันเรียนรู้ 2) วัตถุประสงค์เพื่อฝึกทักษะการวิจัย และทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วยขั้นตอน 5 ขั้น คือ (1) ขั้นระบุปัญหา (Identifying Problems : I) (2) ขั้นแสวงหาคำตอบ (Searching Problems : S) (3) ขั้นรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล (Collecting and Analyzing Data : C) (4) ขั้นสรุปผลการวิจัย (Summarizing Research : S) และ (5) ขั้นประเมินผล (Assessing : A) 4) การวัดและประเมินผล 2 ด้าน คือ ด้านทักษะการวิจัย และด้านทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และ ด้านจิตวิทยาศาสตร์ และ 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย ผู้เรียนมีพื้นฐานความสามารถในการคิดเชิงระบบ ใช้ผลการวิจัยและกระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ และใช้สถานการณ์ปัญหาเป็นปัญหาในชีวิตประจำวัน โดยพบว่า รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.04/82.20
2. ประสิทธิผลของรูปแบบ พบว่า 2.1) ผู้เรียนที่เรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐาน หลังเรียนมีทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2) ผู้เรียนที่เรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานมีพัฒนาการด้านทักษะการวิจัยสูงขึ้นอยู่ในระดับมาก และมีความคงทนด้านทักษะการวิจัยในระยะติดตามผล 2.3) ผู้เรียนที่เรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานมีพัฒนาการด้านทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สูงขึ้นอยู่ในระดับมาก และมีความคงทนของทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในระยะติดตามผล
3. ผลการขยายผลรูปแบบ พบว่า ผู้เรียนกลุ่มขยายผลรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐาน หลังเรียนมีทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีพัฒนาการด้านทักษะการวิจัยและทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สูงขึ้นอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย ครูนุ้ย : [16 ก.ค. 2562 เวลา 14:08 น.] อ่าน [4991] ไอพี : 118.175.254.121
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 2,009 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,819 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 517 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,209 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,582 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,777 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,587 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,191 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,059 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,732 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,562 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,625 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,587 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 155,430 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,658 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 21,385 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,076 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 61,637 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 49,068 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,445 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|