ชื่อผู้วิจัย อุทัย เรืองนุ่น
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ กองการศึกษาเทศบาลเมืองพัทลุง
จังหวัดพัทลุง
ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ ใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 12 ข้อ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) (ห้องเรียน) เก็บข้อมูลโดยการทดลองแบบ One Group Pretest Posttest Design ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที (t-test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.93/85.52 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 สอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ข้อที่ 1
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทาง
สถิติที่ระดับ .01 สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ข้อที่ 2
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.73248 แสดงว่าช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.25 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ร้อยละ 60.00 สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ข้อที่ 3
4. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนสาระประวัติศาสตร์โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าสมมติฐานที่ตั้งไว้