|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและ การเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านสะเตง) 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านสะเตง) 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านสะเตง) ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3.2) ทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน บูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านสะเตง) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบวิเคราะห์ข้อมูล จำนวน 1 ฉบับ ชุดการจัดการเรียนรู้ทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระ จำนวน 7 เล่ม แผนการจัด การเรียนรู้ จำนวน 21 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ แบบวัดทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การหาค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านสะเตง) พบว่า มีความจำเป็นที่ต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์ที่หลากหลาย
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านสะเตง) ที่พัฒนาขึ้น มี 6 ขั้นตอน พบว่า มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.16/84.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะ การคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านสะเตง) พบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน บูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัด การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานบูรณาการกับทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน และการเขียนคำประสมสระของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ในภาพรวมมีระดับ ความพึงพอใจมาก
|
โพสต์โดย ออม : [2 ก.ค. 2562 เวลา 09:20 น.] อ่าน [4777] ไอพี : 1.47.200.59
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 26,610 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,988 ครั้ง
| เปิดอ่าน 88,426 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,338 ครั้ง
| เปิดอ่าน 75,765 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,631 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,751 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,602 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,982 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,529 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,582 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,832 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,081 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,217 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,224 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 26,226 ครั้ง
| เปิดอ่าน 42,726 ครั้ง
| เปิดอ่าน 250,252 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,774 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,520 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|