การประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรียนเบญจม 2 บ้านน้ำรู อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งนี้ ผู้ประเมินได้ใช้วิธีการประเมินโดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP ผู้ประเมินได้เก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 208 คน โดยใช้แบบสอบถาม จำนวน 3 ฉบับ แยกออกเป็น ฉบับที่ 1 สำหรับครูและคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 18 คน ฉบับที่ 2 สำหรับนักเรียน จำนวน 95 คน ฉบับที่ 3 สำหรับผู้ปกครอง จำนวน 95 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมิน พบว่า
1. ด้านบริบท พบว่า ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ด้านบริบทภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ วัตถุประสงค์ของโครงการมีความชัดเจน เข้าใจง่าย โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ วัตถุประสงค์ของโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและพัฒนาพฤติกรรมไปในทางที่เหมาะสม และวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับกิจกรรม ซึ่งมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากเท่ากัน และโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนเบญจม 2 บ้านน้ำรู อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากตามลำดับ และประเด็นที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ วัตถุประสงค์ของโครงการตอบสนองนโยบายการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ด้านปัจจัยนำเข้าภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ เอกสารในการอบรมมีความเหมาะสม โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ บรรยากาศสถานที่อบรมเอื้อต่อการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ลำดับต่อมาคือความพร้อมของอาคารสถานที่ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากเท่ากัน ตามลำดับ และประเด็นที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ ความพร้อมของบุคลากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
สำหรับนักเรียน ด้านปัจจัยนำเข้าภาพรวมอยู่ในระดับมาก พบว่าประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ มีสถานที่ทำกิจกรรมมีเพียงพอ โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ บรรยากาศเหมาะสมกับการแต่ละกิจกรรม โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก และกิจกรรมเพียงพอเหมาะสมกับระยะเวลา มีเนื้อหากิจกรรมที่เหมาะกับนักเรียนยุคปัจจุบัน มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากเท่ากันตามลำดับ และประเด็นที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ มีวิทยากรเพียงพอกับกิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
3. ด้านกระบวนการ ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ด้านกระบวนการภาพรวมอยู่ในระดับมาก พบว่าประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ การแต่งตั้งบุคลากรรับผิดชอบโครงการ โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ มีการประเมินโครงการปีที่ผ่านมาเพื่อนำมาพัฒนาโครงการ ซึ่งมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ลำดับต่อมา มีการประชุมวางแผนของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากตามลำดับ และประเด็นที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ มีการพัฒนาและช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดคุณธรรมจริยธรรมอย่างสม่ำเสมอ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก สำหรับนักเรียน ด้านกระบวนการภาพรวมอยู่ในระดับมาก พบว่าประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ครูติดตามช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาด้านคุณธรรมจริยธรรมอย่างสม่ำเสมอ โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ ครูได้ประชาสัมพันธ์ในแต่ละห้องเรียนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมและความสำคัญของคุณธรรมจริยธรรมอยู่เสมอ โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ลำดับต่อมา นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมและนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมอย่างทั่วถึง มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากเท่ากันตามลำดับ และประเด็นที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ นักเรียนนำความรู้จากกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
4. ด้านผลผลิต
4.1 ในด้านผลผลิต ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ภาพรวมอยู่ในระดับมาก พบว่า ประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ นักเรียนมีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับวัย โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ นักเรียนควบคุมตัวเองได้ เปิดโอกาสให้เพื่อนโต้แย้งก่อนที่จะชี้แจงให้เพื่อนเข้าใจ/ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน และนักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการอบรมมาใช้ในห้องเรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากเท่ากัน และนักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ทางโรงเรียนมอบหมาย มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ และรายการที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ นักเรียนไม่เอาอารมณ์ของตนเองมาเป็นที่ตั้งการประเมิน มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
4.2 ในด้านผลผลิต นักเรียน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก พบว่า ประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ทางโรงเรียนมอบหมาย โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ นักเรียนควบคุมตัวเองได้ เปิดโอกาสให้เพื่อนโต้แย้งก่อนที่จะชี้แจงให้เพื่อนเข้าใจ/ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก และพฤติกรรมนักเรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ และรายการที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ นักเรียนมีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับวัย มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
4.3 ในด้านผลผลิต ผู้ปกครองนักเรียน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก พบว่า ประเด็นที่มีผลการประเมินสูงสุด 3 อันดับแรก คือ นักเรียนควบคุมตัวเองได้ เวลาที่ผู้ปกครองว่ากล่าวตักเตือน โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ พฤติกรรมนักเรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก และนักเรียนรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครอง มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ และรายการที่มีระดับผลการประเมินน้อยที่สุด คือ นักเรียนได้เสนอแนวทางในการพัฒนาตนเอง มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
5. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่อโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรียนเบญจม 2 บ้านน้ำรู อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 4 รายการ ดังนี้ ขาดงบประมาณในการดำเนินโครงการ โครงการสามารถปรับใช้ได้ในทุกกิจกรรมและควรทำอย่างต่อเนื่อง ควรมีการรายงานผลการประเมินให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ และขาดการประสานงานกันในบางส่วน
6. ความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรียนเบญจม 2 บ้านน้ำรู อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ครู คณะกรรมการสถานศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน โดยภาพรวมอยู่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
7. ผลคุณลักษณะการมีคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนเบญจม 2 บ้านน้ำรู อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยภาพรวมเฉลี่ย ปีการศึกษา 2560 ได้ร้อยละ 76.31 ปีการศึกษา 2561 ได้ร้อยละ 95.20 ผลคุณลักษณะการมีคุณธรรมจริยธรรมรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.90
8. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 สาระการการเรียนรู้ ของนักเรียนโรงเรียนเบญจม 2 บ้านน้ำรู อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยภาพรวมเฉลี่ย ปีการศึกษา 2560 ได้ร้อยละ 71.64 ปีการศึกษา 2561 ได้ร้อยละ 72.72 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.08