ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์

สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางพรกมล พานิชกรณ์ ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ

โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านนาตาล่วง) สังกัดเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีความสำคัญในการดำเนินชีวิต การวิจัยพัฒนารูปแบบการจัด

การเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะช่วยพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้สามารถคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น การให้ผู้เรียนได้ทำแบบฝึกมาก ๆ จะช่วยให้ผู้เรียน

มีพัฒนาการทางการเรียนรู้ในเนื้อหาได้ดีขึ้น และการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD เป็นเทคนิคที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งสมาชิกในกลุ่มมีความรู้ต่างกัน คนที่เรียนเก่งจะได้ช่วยเหลือคนที่อ่อนกว่า ทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข การจัดกิจกรรม

ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์

1) เพื่อศึกษาปัญหาเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อศึกษาความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 3 ก่อน-หลัง การร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD)

เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านนาตาล่วง) สำนักงานเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 11 ชุด คู่มือการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยแผน

การจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.33-1.00 และ

ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

คือร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมติฐาน t-test

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาปัญหาการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ พบว่าการเรียนการสอนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้

แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สามารถแก้ปัญหาการสอนของ

ครูคณิตศาสตร์ได้

2. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์

สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.53/86.09

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง

การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ที่ระดับ .01

4. ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์

สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6981

5. นักเรียนมีความพึงพอใจที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

ผลการวิจัย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ

สามารถประยุกต์ใช้กับเนื้อหาวิชาเรื่องอื่น ๆ และในระดับชั้นต่าง ๆ ต่อไป

โพสต์โดย เจี๊ยบ : [30 มิ.ย. 2562 เวลา 11:03 น.]
อ่าน [5003] ไอพี : 110.77.171.73
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,785 ครั้ง
มนัส บุญจำนงค์
มนัส บุญจำนงค์

เปิดอ่าน 34,041 ครั้ง
ทำไมหน้าธนาคารถึงต้องมีครุฑ
ทำไมหน้าธนาคารถึงต้องมีครุฑ

เปิดอ่าน 26,242 ครั้ง
มารู้จัก Flower Ball กันเถอะ
มารู้จัก Flower Ball กันเถอะ

เปิดอ่าน 26,873 ครั้ง
"รังผึ้ง" นวัตกรรมใหม่สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย
"รังผึ้ง" นวัตกรรมใหม่สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย

เปิดอ่าน 23,599 ครั้ง
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ

เปิดอ่าน 25,359 ครั้ง
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ

เปิดอ่าน 99,796 ครั้ง
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้

เปิดอ่าน 1,139 ครั้ง
ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี
ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี

เปิดอ่าน 10,619 ครั้ง
Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์  มูลค่าของความสามารถ
Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์ มูลค่าของความสามารถ

เปิดอ่าน 14,569 ครั้ง
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)

เปิดอ่าน 10,061 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 9,770 ครั้ง
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ

เปิดอ่าน 10,542 ครั้ง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง

เปิดอ่าน 9,810 ครั้ง
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ

เปิดอ่าน 16,581 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย

เปิดอ่าน 65,778 ครั้ง
"ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย
"ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย
เปิดอ่าน 13,868 ครั้ง
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน
เปิดอ่าน 10,657 ครั้ง
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)
เปิดอ่าน 9,800 ครั้ง
ลดความอ้วนด้วยตะเกียบ ช่วยถ่วงให้กินได้ช้าลงและคำเล็กลง
ลดความอ้วนด้วยตะเกียบ ช่วยถ่วงให้กินได้ช้าลงและคำเล็กลง
เปิดอ่าน 19,838 ครั้ง
ดาวน์โหลด Powerpoint แนวทางการปฏิรูปการศึกษา
ดาวน์โหลด Powerpoint แนวทางการปฏิรูปการศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ