บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชา กับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนหนองหานวิทยา อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 จำนวน 302 คน จาก 9 ห้องเรียน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ที่เรียนใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนหนองหานวิทยา อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี จำนวน 35 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 เล่ม 2) คู่มือการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบวัด
ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ จำนวน 17 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ
การทดสอบสมมติฐานใช้ค่าทีกรณีที่กลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.79/82.29 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6600 หมายความว่า นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6600 หรือ คิดเป็นร้อยละ 66.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 50 ที่ตั้งไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชากับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจทั้งโดยรวมและเป็นรายด้านอยู่ในระดับ มาก