ชื่อผู้วิจัย นายกิตติภพ คัธทมารศรี
หน่วยงานที่สังกัด โรงเรียนบ้านผึ้งวิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 โรงเรียนบ้านผึ้งวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน บ้านผึ้งวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 80 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนบ้านผึ้งวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 26 คน ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง (Purposive Sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1)ชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2)แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการเรียนรู้ ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการใช้ชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 30 ข้อ 4)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต(Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐานที่ใช้ในการทดสอบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คือ t-test ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่สร้างขึ้น เพื่อใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.25/ 83.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แสดงว่าชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพตามที่กำหนด 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5Es เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.60, S.D. = 0.47) และเมื่อพิจารณารายการประเมินเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คือ ข้อที่ 1 การเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรูแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ช่วยให้นักเรียนกระตือรือร้นต่อการเรียน ( =4.88) รองลงมา คือ ข้อที่ 8 ชุดกิจกรรมการเรียนรูแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น ( =4.77) และ น้อยที่สุด คือ ข้อที่ 6 ชุดกิจกรรมการเรียนรูแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เปิดโอกาสให้ผู้เรียนศึกษาด้วยตนเองทำให้มีทักษะในการแสวงหาความรู้ ( = 4.15)